ส.ส.รีพับลิกันลงมติแทรกแซงหน่วยงานตรวจสอบของสภาคองเกรส

Posted: 04 Jan 2017 12:42 PM PST  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)

บ็อบ กูดแลตต์ จากพรรครีพับลิกัน เสนอลงมติเพื่อลดความเป็นอิสระของสำนักงานจริยธรรมสภาคองเกรส ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบการทำงานของสมาชิกรัฐสภา โดยผลลงมติได้รับเสียงสนับสนุน 119 ต่อ 74 เสียง สวนทางกับเมื่อคราวที่ 'โดนัลด์ ทรัมป์' เคยเสนอตอนหาเสียงว่าจะล้างทุจริตคอร์รัปชั่น
4 ม.ค. 2560 ยังไม่ทันที่สภาคองเกรสชุดใหม่จะให้สัตย์ปฏิญาณตนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (3 ม.ค.) ก็มีรายงานเปิดเผยว่า ส.ส.พรรครีพับลิกันไม่ได้ต้องการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างแท้จริง จากการที่พวกเขาแอบลงมติกันอย่างลับๆ เมื่อวันจันทร์ (2 ม.ค.) ให้มีการทำลายความเป็นอิสระขององค์กรตรวจสอบสภาคองเกรส
คอมมอนดรีมส์นำเสนอว่าเรื่องนี้ขัดกับสิ่งที่โดนัลด์ ทรัมป์ เคยพูดไว้ว่าจะมีการ "ระบายสิ่งเน่าเสีย" ซึ่งหมายถึงการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง จากการที่ ส.ส. พรรครีพับลิกันจัดประชุมลงมติด้วยเสียง 119 ต่อ 74 ให้มีการแก้ไขภายในสำนักงานจริยธรรมสภาคองเกรส (Office of Congressional Ethics หรือ OCE) ซึ่งเป็นผู้ตรวจสอบการทำงานของสภา โดยผลของการลงมติ มีการขับเจ้าหน้าที่อิสระออก เปลี่ยนชื่อสำนักงานเป็นสำนักงานตรวจสอบเรื่องร้องเรียนสภาคองเกรส (Office of Congressional Complaint Review) และทำให้สำนักงานใหม่ดังกล่าวมีฐานะเป็นคณะกรรมการประจำ และต้องรับใช้สมาชิกสภาคองเกรส (อ่านญัตติที่เสนอให้แก้ไข)
คอมมอนดรีมส์ระบุว่าก่อนหน้านี้ทรัมป์เองเคยประกาศว่าจะชำระล้างการทุจริตคอร์รัปชั่นนั้น แต่ก็กลายเป็นแค่โวหารที่ใช้ในการหาเสียง การที่รีพับลิกันกำจัดระบบตรวจสอบที่เป็นอิสระ ก็ดูจะเป็นลางร้ายในการเริ่มต้นสภาคองเกรสชุดใหม่ที่ พอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่าเป็น "ยุคสมัยของการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างมโหฬาร"

บ็อบ กูดแลตต์ (Bob Goodlatte) ในที่ประชุม Conservative Political Action Conference 2015 (ที่มาของภาพ: Gage Skidmore/Wikipedia)

ผู้ที่เป็นคนนำการลงมติรื้อฝ่ายตรวจสอบสภาคองเกรสในครั้งนี้คือ บ็อบ กูดแลตต์ ผู้แทนพรรครีพับลิกันจากรัฐเวอร์จิเนีย โดยบทบรรณาธิการของนิวยอร์กไทม์ระบุว่ามติการแทรกแซงสำนักงาน OCE ในครั้งนี้จะทำให้ ส.ส. สหรัฐอเมริกา สามารถปิดกั้นการสืบสวนสอบสวนหรือใช้มาตรการควบคุมการพูดออกสื่อของเจ้าหน้าที่ OCE
นิวยอร์กไทม์ระบุอีกว่าทรัมป์เองก็ไม่ได้ออกมาประณามการที่เหล่า ส.ส.รีพับลิกันขัดขวางการ "ระบายสิ่งเน่าเสีย" แต่อย่างใด โดยบอกแค่ให้เหล่า ส.ส. หันไปจัดการประเด็นที่เร่งด่วนกว่าอย่างการปฏิรูปเรื่องภาษี และนโยบายด้านสวัสดิการสุขภาพ

With all that Congress has to work on, do they really have to make the weakening of the Independent Ethics Watchdog, as unfair as it
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) 3 January 2017


........may be, their number one act and priority. Focus on tax reform, healthcare and so many other things of far greater importance! #DTS
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) 3 January 2017

เรื่องนี้ทำให้ทั้งพรรคเดโมแครตและกลุ่มสนับสนุนฝ่ายตรวจสอบสภาคองเกรสแสดงความไม่พอใจทันที แนนซี เปโลซี จากพรรคเดโมแครตวิจารณ์ว่ารีพับลิกันเคยอ้างว่าจะปราบคอร์รัปชั่นแต่ก็กำลังจัดการตรวจสอบอย่างอิสระเสียเอง
นอร์แมน ไอเซน และ ริชาร์ด เพนต์เตอร์ ประธานและรองประธานของกลุ่มพลเมืองเพื่อความรับผิดชอบและจริยธรรมในวอชิงตัน (Citizens for Responsibility and Ethics in Washington หรือ CREW) ซึ่งเป็นกลุ่มไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดบอกว่าการทำลายความอิสระของหน่วยงานตรวจสอบสภาคองเกรสจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อ ส.ส. ที่ต้องพึ่งพา OCE ในการสืบสวนสอบสวนอย่างไม่ลำเอียง รวมถึงส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ต้องการให้ ส.ส. มีคุณสมบัติตากหลักกฎหมายและหลักจรรยาบรรณ
บทบรรณาธิการของนิวยอร์กไทม์ระบุว่าการที่ผู้คนประท้วงต่อต้านการกระทำของ ส.ส. รีพับลิกันในครั้งนี้เป็นเรื่องชวนให้มีกำลังใจ แม้กระทั่งกลุ่มอนุรักษ์นิยมอย่างกลุ่มจูดิเชียลวอทช์ (Judcial Watch) ยังเลิกไล่ล่าฮิลลารี คลินตัน ชั่วคราวเพื่อหันมาประณามกูดแลตต์
อย่างไรก็ตามในตอนนี้ข้อเสนอเรื่องการปรับ OCE จะย้อนกลับไปสู่สภาผู้แทนให้มีการประชุม "ศึกษาทำความเข้าใจ" ท่ามกลางการจับตามองชาวอเมริกันว่าทรัมป และเหล่า ส.ส.รีพับลิกัน จะดำเนินแนวคิดที่บทบรรณาธิการนิวยอร์กไทม์ระบุว่าเป็น "แนวคิดเน่าๆ" นี้ต่อหรือไม่
OCE เป็นสำนักงานที่ตั้งขึ้นเมื่อปี 2551 หลังเกิดกรณีอื้อฉาวเรื่องการทุจริตจากทั้งสองพรรคการเมืองใหญ่ของสหรัฐอเมริกา โดยถือเป็นองค์กรของสภาคองเกรสองค์กรเดียวที่ทำหน้าที่สืบสวนจากเรื่องร้องเรียนของประชาชนอเมริกัน

เรียบเรียงจาก
House Fires at Ethics and Shoots Self, New York Times, 03-01-2017
Behind Closed Doors, House GOP Vote Overwhelmingly to Eviscerate Ethics Watchdog, Common Dreams, 03-01-2017
House Republicans, Under Fire, Back Down on Gutting Ethics Office By ERIC LIPTON and MATT FLEGENHEIMER, New York Times, 03-01-2016
 

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.