ชายจีนได้รับแจ้งว่าตัวเองถูกประหารชีวิตไปแล้วเมื่อ 10 ปีก่อน
เครือข่ายสถานีวิทยุโทรทัศน์กวางตุ้งของจีนรายงานว่า ชายแซ่เจินวัย 45 ปี ผู้หนึ่ง ซึ่งยื่นขอใบรับรองว่าไม่มีประวัติอาชญากรรมจากตำรวจ เพื่อนำไปใช้สมัครงานในเมืองกวางโจว กลับได้รับแจ้งจากทางการว่า ทะเบียนประวัติอาชญากรได้แสดงข้อมูลที่ระบุว่าตัวเขาเป็นโจรลักพาตัวที่ถูกตัดสินโทษประหารชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี 2006 โดยโจรคนดังกล่าวมีชื่อ สกุล และเลขบัตรประจำตัวประชาชนตรงกับเขาทั้งหมด
นายเจินซึ่งยังมีชีวิตอยู่ระบุว่า รู้สึกงงงวยอย่างมาก เพราะที่มีผ่านมาเขาก็ยังใช้ชีวิตอยู่ตามปกติ และไม่มีปัญหาใด ๆ เมื่อต้องเข้าติดต่อราชการ โดยเคยได้รับใบอนุญาตท่องเที่ยวให้เดินทางไปฮ่องกงและมาเก๊าได้มาแล้ว
เครือข่ายสถานีวิทยุโทรทัศน์กวางตุ้งของจีนรายงานว่า ชายแซ่เจินวัย 45 ปี ผู้หนึ่ง ซึ่งยื่นขอใบรับรองว่าไม่มีประวัติอาชญากรรมจากตำรวจ เพื่อนำไปใช้สมัครงานในเมืองกวางโจว กลับได้รับแจ้งจากทางการว่า ทะเบียนประวัติอาชญากรได้แสดงข้อมูลที่ระบุว่าตัวเขาเป็นโจรลักพาตัวที่ถูกตัดสินโทษประหารชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี 2006 โดยโจรคนดังกล่าวมีชื่อ สกุล และเลขบัตรประจำตัวประชาชนตรงกับเขาทั้งหมด
นายเจินซึ่งยังมีชีวิตอยู่ระบุว่า รู้สึกงงงวยอย่างมาก เพราะที่มีผ่านมาเขาก็ยังใช้ชีวิตอยู่ตามปกติ และไม่มีปัญหาใด ๆ เมื่อต้องเข้าติดต่อราชการ โดยเคยได้รับใบอนุญาตท่องเที่ยวให้เดินทางไปฮ่องกงและมาเก๊าได้มาแล้ว
อย่างไรก็ตาม สำนักงานตำรวจเมืองกวางโจวระบุว่า กรณีที่เกิดขึ้นกับนายเจินน่าจะเป็นความผิดพลาด ซึ่งมาจากการที่ระบบทะเบียนราษฎร์ออกเลขบัตรประจำตัวประชาชนซ้ำซ้อนกัน แต่ในที่สุด ตำรวจก็ได้ออกใบรับรองว่าไม่มีประวัติอาชญากรรมให้กับนายเจินไป
ทั้งนี้ ปัญหาความผิดพลาดที่ระบบทะเบียนราษฎร์ออกเลขประจำตัวประชาชน รวมทั้งข้อมูลที่ระบุตัวตนของแต่ละบุคคลซ้ำซ้อนกันนั้น เคยเป็นปัญหาใหญ่ที่กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนประกาศจะขจัดให้หมดไปภายในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ปัจจุบันปัญหานี้พบน้อยลงเหลือเพียงไม่กี่สิบกรณี จากที่เคยพบมากถึง 1.1 ล้านกรณีเมื่อปี 2009
http://www.bbc.co.uk/news/blogs-news-from-elsewhere-37012966
ทั้งนี้ ปัญหาความผิดพลาดที่ระบบทะเบียนราษฎร์ออกเลขประจำตัวประชาชน รวมทั้งข้อมูลที่ระบุตัวตนของแต่ละบุคคลซ้ำซ้อนกันนั้น เคยเป็นปัญหาใหญ่ที่กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนประกาศจะขจัดให้หมดไปภายในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ปัจจุบันปัญหานี้พบน้อยลงเหลือเพียงไม่กี่สิบกรณี จากที่เคยพบมากถึง 1.1 ล้านกรณีเมื่อปี 2009
http://www.bbc.co.uk/news/blogs-news-from-elsewhere-37012966
แสดงความคิดเห็น