ประชามติครั้งนี้คือการยืม 16 ล้านเสียงฆ่าประชาธิปไตย
16 ล้านเสียงไม่ได้บอกว่าเอาเผด็จการ ไม่เอาเลือกตั้ง การทำประชามติภายใต้บรรยากาศความกลัว ฝั่ง Vote No เคลื่อนอะไรไม่ได้ ถูกจับกุมคุมขัง ทั้งยังตั้งคำถาม ประยุทธ์ ก. ประยุทธ์ ข. ให้เลือกอันไหน ยังไงๆ ก็ประยุทธ์อยู่ดี คนเลยเลือกข้อที่มีคำตอบชัดเจนกว่า
ฉะนั้นในด้านที่ยอมรับประชามติ เราควรน้อมรับความต้องการของคนส่วนใหญ่ใน 16 ล้านเสียง ว่าอยากเห็นบ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติ เหนื่อยเหลือเกิน อยากทำมาหากิน (อาจรวมทั้งอยากเลือกตั้ง)
แต่ขณะเดียวกัน เราก็ขอสงวนสิทธิโต้แย้ง ว่าคนส่วนใหญ่ใน 16 ล้านเสียง ไม่ได้เห็นชอบทุกเงื่อนไขในร่าง รธน. ซึ่งผลของมันคือการ "ฆ่าประชาธิปไตย" ฆ่าสิทธิเสียง ฆ่าอำนาจเลือกตั้งของเขาเอง ไม่ได้เห็นชอบหลักการอำนาจไม่ต้องมาจากประชาชน เพียงแต่การเมืองช่วงนี้มืดมนชั่วขณะ ไม่ได้เห็นชอบให้ละเมิดสิทธิเสรีภาพ ซึ่่งทางกลับกันจะยิ่งไม่สงบ
เงื่อนไขเหล่านี้จะเผยตัวให้เห็นเมื่อเวลาผ่านไป เราจะสู้ด้วยเหตุผลไปทีละขั้นๆ ภายใต้หลักเสรีภาพเสียงข้างน้อย ซึ่งจะอ้าง 16 ล้านเสียงปิดกั้นไม่ได้
ยอมรับว่าแพ้นะครับไม่ใช่ไม่ยอมรับ แต่ยอมรับในเงื่อนไขข้างต้น ซึ่งแพ้ตั้งแต่ในมุ้ง กระนั้นในขณะเดียวกัน ต่อความต้องการให้ประนีประยอมหยวนยอมกันไป แบบกลบฝังความถูกผิด ก็เห็นจะยอมไม่ได้
ถ้ายอมรับวัฒนธรรมเห็บสยาม ไม่ยึดมั่นในหลักการ ไม่ยึดมั่นในตรรกะและเหตุผล ไปตามกระแสตามอารมณ์ เป็นสังคมที่ไม่ยึดมั่นในคุณค่า.... เป็นฝ่ายแพ้กี่ครั้งเราก็ยังภาคภูมิใจ


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.