องค์กรสิทธิมนุษยชนติงออสเตรเลียปล่อยให้มีการละเมิดผู้ลี้ภัย
องค์กรระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน 2 แห่ง ได้แก่ ฮิวแมนไรท์วอทช์ และแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล แถลงตำหนิรัฐบาลออสเตรเลียฐานเพิกเฉยต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนผู้ลี้ภัยซึ่งออสเตรเลียส่งไปยังค่ายกักกันในสาธารณรัฐนาอูรู โดยทั้งสององค์กรอ้างอิงข้อมูลในรายงานการสำรวจสถานการณ์ความเป็นอยู่ของผู้ลี้ภัย 84 คน ซึ่งทั้งสององค์กรจัดทำขึ้นหลังจากเข้าสำรวจพื้นที่ในค่ายกักกันโดยไม่เปิดเผยตัวเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา
รายงานขององค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งสองแห่งระบุว่าผู้ลี้ภัยในค่ายกักกันที่นาอูรูเป็นผู้เดินทางมายังออสเตรเลียโดยเรือ ส่วนใหญ่มีคุณสมบัติเข้าข่ายผู้สมควรได้รับการคุ้มครองในฐานะผู้ลี้ภัย และได้รับการปล่อยตัวไปอยู่กับชุมชนภายนอกในนาอูรู แต่ผู้ลี้ภัยจำนวนมากไม่กล้าออกไปนอกค่าย เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย
องค์กรระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน 2 แห่ง ได้แก่ ฮิวแมนไรท์วอทช์ และแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล แถลงตำหนิรัฐบาลออสเตรเลียฐานเพิกเฉยต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนผู้ลี้ภัยซึ่งออสเตรเลียส่งไปยังค่ายกักกันในสาธารณรัฐนาอูรู โดยทั้งสององค์กรอ้างอิงข้อมูลในรายงานการสำรวจสถานการณ์ความเป็นอยู่ของผู้ลี้ภัย 84 คน ซึ่งทั้งสององค์กรจัดทำขึ้นหลังจากเข้าสำรวจพื้นที่ในค่ายกักกันโดยไม่เปิดเผยตัวเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา
รายงานขององค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งสองแห่งระบุว่าผู้ลี้ภัยในค่ายกักกันที่นาอูรูเป็นผู้เดินทางมายังออสเตรเลียโดยเรือ ส่วนใหญ่มีคุณสมบัติเข้าข่ายผู้สมควรได้รับการคุ้มครองในฐานะผู้ลี้ภัย และได้รับการปล่อยตัวไปอยู่กับชุมชนภายนอกในนาอูรู แต่ผู้ลี้ภัยจำนวนมากไม่กล้าออกไปนอกค่าย เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย
ผู้ลี้ภัยหญิงบางรายระบุว่าเคยถูกกลุ่มชายชาวนาอูรูวิ่งไล่และพยายามข่มขืน รวมถึงมีเหตุข่มขืนและการละเมิดสิทธิของผู้ลี้ภัยในด้านอื่น ๆ แต่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของนาอูรูไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ส่วนสภาพความเป็นอยู่ในค่ายกักกันผู้ลี้ภัยมีปัญหาแออัด และขาดแคลนยารักษาโรค ทำให้ผู้ลี้ภัยจำนวนมาก ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ต่างรู้สึกไม่ปลอดภัย เครียด ซึมเศร้า และมีแนวโน้มจะฆ่าตัวตาย
บริษัท 2 แห่งที่รับผิดชอบด้านการดูแลผู้ลี้ภัยในค่ายกักกันที่นาอูรู ได้แก่ บ.บรอด สเป็กตรัม และ บ. อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ แอนด์ เมดิคัล เซอร์วิส ซึ่งเป็นคู่สัญญากับรัฐบาลออสเตรเลีย แต่การเพิกเฉยต่อเหตุการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในค่ายกักกัน บ่งชี้ว่านโยบายการจัดการผู้ลี้ภัยของรัฐบาลออสเตรเลียอาจถูกออกแบบมาเพื่อบั่นทอนไม่ให้ผู้ลี้ภัยเดินทางมายังออสเตรเลียเพิ่มขึ้น
สำนักงานการโยกย้ายถิ่นฐานของออสเตรเลียออกแถลงการณ์ตอบโต้รายงานขององค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งสองแห่ง โดยระบุว่ารัฐบาลไม่ได้รับทราบข้อมูลในรายงานก่อนจะได้รับการเผยแพร่ และทางการออสเตรเลียแนะนำให้ผู้จัดทำรายงานติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม แต่รายงานขององค์กรทั้งสองแห่งไม่ได้อ้างอิงเอกสารที่บ่งชี้ว่ารัฐบาลออสเตรเลียมีนโยบายอย่างชัดเจนในการเพิกเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในค่ายกักกันที่นาอูรู
บริษัท 2 แห่งที่รับผิดชอบด้านการดูแลผู้ลี้ภัยในค่ายกักกันที่นาอูรู ได้แก่ บ.บรอด สเป็กตรัม และ บ. อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ แอนด์ เมดิคัล เซอร์วิส ซึ่งเป็นคู่สัญญากับรัฐบาลออสเตรเลีย แต่การเพิกเฉยต่อเหตุการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในค่ายกักกัน บ่งชี้ว่านโยบายการจัดการผู้ลี้ภัยของรัฐบาลออสเตรเลียอาจถูกออกแบบมาเพื่อบั่นทอนไม่ให้ผู้ลี้ภัยเดินทางมายังออสเตรเลียเพิ่มขึ้น
สำนักงานการโยกย้ายถิ่นฐานของออสเตรเลียออกแถลงการณ์ตอบโต้รายงานขององค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งสองแห่ง โดยระบุว่ารัฐบาลไม่ได้รับทราบข้อมูลในรายงานก่อนจะได้รับการเผยแพร่ และทางการออสเตรเลียแนะนำให้ผู้จัดทำรายงานติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม แต่รายงานขององค์กรทั้งสองแห่งไม่ได้อ้างอิงเอกสารที่บ่งชี้ว่ารัฐบาลออสเตรเลียมีนโยบายอย่างชัดเจนในการเพิกเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในค่ายกักกันที่นาอูรู
แสดงความคิดเห็น