ยูเอ็นประณามเหตุระเบิดในไทย ขณะที่สององค์กรสิทธิฯ หนุนสอบสวนโปร่งใส นำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี

สหประชาชาติและองค์กรระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนออกแถลงการณ์ประณามการก่อเหตุระเบิดและวางเพลิงหลายจุดใน 5 จังหวัดภาคใต้ของไทยช่วงสองวันที่ผ่านมา พร้อมเรียกร้องให้มีการสอบสวนดำเนินคดีเพื่อหาตัวผู้ก่อเหตุ โดยต้องเน้นกระบวนการที่เคารพหลักสิทธิมนุษยชนและมีความโปร่งใส
นายบัน กี มูน เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) ออกแถลงการณ์ประณามผู้ก่อเหตุระเบิดโจมตีพื้นที่หลายจุดของไทยเมื่อวันที่ 11-12 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยสำนักโฆษกของเลขาธิการใหญ่ยูเอ็นระบุว่านายบันแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสียชีวิตและครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงเป็นกำลังใจให้แก่รัฐบาลและประชาชนไทย และขอให้รัฐบาลไทยนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้โดยเร็ว

ขณะที่นายตาเล็บ ริฟาย ผู้อำนวยการองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) ร่วมแถลงประณามการก่อเหตุในไทย ซึ่งถือเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่สำคัญ แต่นายริฟายเชื่อมั่นว่าไทยจะฟื้นตัวได้ และจะเดินทางเยือนไทยในวันที่ 27 ก.ย. เพื่อร่วมฉลองวันการท่องเที่ยวโลกที่กรุงเทพฯ

ด้านนายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการองค์กรระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน “ฮิวแมนไรท์วอทช์” (HRW) ประจำภูมิภาคเอเชีย ออกแถลงการณ์ว่าเหตุระเบิดและวางเพลิงที่เกิดขึ้นอย่างน้อย 11 จุดในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ของไทยเมื่อวันที่ 11-12 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย และผู้บาดเจ็บ 35 ราย แต่ยังไม่มีกลุ่มใดอ้างตัวเป็นผู้ก่อเหตุ ทาง HRW จึงเรียกร้องให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการสืบสวนสอบสวนเหตุดังกล่าวพยายามทุกวิถีทางเพื่อนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม แต่ต้องมั่นใจว่าจะไม่มีการกวาดจับตามอำเภอใจ และขั้นตอนดำเนินการต่าง ๆ จะต้องเป็นไปอย่างโปร่งใสและเคารพต่อหลักสิทธิมนุษยชน

ส่วน น.ส.แชมพา พาเทล ที่ปรึกษาอาวุโสงานวิจัย สำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก องค์กรระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน “แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล” (AI) แถลงว่าเหตุระเบิดในไทยเป็นความรุนแรงที่เลวร้ายและไม่เคารพสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ ทั้งยังเป็นการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมาย และกระทำด้วยความจงใจ ซึ่งไม่มีความชอบธรรมใด ๆ ทาง AI จึงได้เรียกร้องทางการไทยให้มีแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม สอดคล้องกับพันธกรณีที่มีต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เพื่อนำตัวผู้รับผิดชอบเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและมีการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม
(ภาพ: ตำรวจควบคุมที่เกิดเหตุระเบิดที่หัวหินเมื่อวานนี้ 12 ส.ค.)

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.