กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างชาติแสดงความไม่มั่นใจกับนโยบายดักฟังโทรศัพท์ของประชาชน ระบุละเมิดสิทธิส่วนบุคคลขั้นรุนแรง


กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างชาติออกมาแสดงความไม่มั่นใจกับมาตรการรักษาความปลอดภัยล่าสุดของรัฐบาลทหาร ซึ่งล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้แสดงความเห็นชอบนโยบายดักฟังโทรศัพท์ของประชาชน โดยอ้างกรณีที่อาจมีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ซึ่ง นายสุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาฮิวแมนไรท์วอชกล่าวว่า นโยบายนี้สร้างความไม่สบายใจแก่กลุ่มนักสิทธิมนุษยชนเป็นอย่างมาก เพราะการดักฟังโทรศัพท์ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลขั้นรุนแรง

พล.ต.อ. เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า กฎหมายตัวนี้ยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนรอการอนุมัติ ซึ่งถ้าหากผ่านก็จะมอบอำนาจให้ตำรวจสามารถดักฟังการสื่อสารทางโทรศัพท์ของประชาชนได้ โดยที่พล.ต.อ. เดชณรงค์ได้กล่าวว่ากฎหมายตัวนี้จะไม่ถูกนำมาใช้ในทางที่ผิด และการจะดักฟังก็ต้องได้รับคำอนุญาตจากศาลก่อน นอกจากนี้ นายตำรวจระดับสูงผู้หนึ่งที่มีส่วนร่วมในการแก้ไขกฎหมายดังกล่าว ยังระบุว่าการดักฟังจะทำได้เฉพาะในกรณีที่มีความเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม ความมั่นคงของชาติ การหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ และอาชญากรรมข้ามชาติ แต่จะไม่ใช้ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการเมือง

อย่างไรก็ตาม นายสุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาฮิวแมนไรท์วอชยังคงแสดงความกังวลต่อการใช้มาตรการดังกล่าวเนื่องจากผู้มีอิทธิพลในประเทศชอบใช้อำนาจเหนือการรักษาความปลอดภัยโดยพลการ และควรที่จะมีมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อป้องกันการใช้อำนาจในทางที่ผิด เพื่อไม่ให้เกิดการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งสำนักข่าวรอยเตอร์สมีความเห็นว่า ตั้งแต่การยึดอำนาจในปี 2014 นั้น รัฐบาลทหารได้ใช้มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวโดยพลการ เพื่อตีกรอบสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนและต่อต้านฝ่ายที่เห็นต่าง


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.