วัฒนา เมืองสุข
โรงเรียนเตรียมทหารเป็นองค์กรของกองทัพที่ดำรงอยู่ได้ด้วยภาษีของประชาชน เป็นแหล่งผลิตบุคลากรออกไปรับใช้ประเทศชาติ แต่ทัศนคติของผู้ที่จบจากโรงเรียนแห่งนี้ เช่น รอง นรม. ที่บอกว่าการถูกซ่อมจนสลบเป็นการธำรงไว้ซึ่งวินัยและไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือการสอบสวนสาเหตุการตายของ นตท.ภัคพงศ์ ตัญกาญจน์ ที่มิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายและไม่ยอมให้บุคคลภายนอกมาเกี่ยวข้อง สะท้อนให้เห็นถึงความป่าเถื่อนของวัฒนธรรมอำนาจนิยมของกองทัพที่ไม่เคารพกฎหมาย เป็นแดนสนธยาโดยใช้ความมั่นคงเป็นข้ออ้างเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ
กองทัพมักแก้ปัญหาด้วยการยึดอำนาจจากประชาชน จากนั้นละเมิดสิทธิมนุษยชนและใช้อำนาจตามอำเภอใจ ขยายเขตแดนอำนาจเพื่อคงอภิสิทธิ์ของตนไว้ให้นานที่สุด ล่าสุดใช้ข้ออ้างเรื่องความมั่นคงขยายเขตแดนอำนาจสร้างความเป็นรัฐทหารเพื่อประโยชน์ทางการเมืองโดยผ่าน กอ.รมน. ทั้งหมดเกิดจากความล้าหลังของวัฒนธรรมองค์กรที่ปลูกฝังมาตั้งแต่ในโรงเรียน ดักดานถึงขนาดมองตัวเองเหนือกว่าคนอื่นส่วนประชาชนที่เป็นคนจ่ายเงินเดือนพวกตนเป็นชนชั้นล่าง
ผมเชื่อว่าไม่มีใครปฏิเสธความจำเป็นที่ต้องมีกองทัพ แต่จำนวนบุคลากรและความเหมาะสมของภารกิจที่จะสอดคล้องกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ที่เน้นการก่อการร้ายแทนการทำสงครามในรูปแบบเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา
นอกจากนี้การดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ชาญฉลาด ไม่ชักศึกเข้าบ้านและการดำรงสถานะของประเทศอย่างเหมาะสมจะป้องกันภัยคุกคามได้ดีกว่าการใช้งบประมาณไปซื้ออาวุธที่ไม่สอดคล้องกับภารกิจ เช่น เรือดำน้ำ เป็นต้น
แต่เมื่อได้เห็นทัศนคติของคนที่จบมาจากสถาบันแห่งนี้ ภารกิจเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการคือการปฏิรูปกองทัพให้หลุดพ้นจากแนวคิดอำนาจนิยม เคารพกฎหมาย เคารพสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น เพื่อความเป็นทหารอาชีพที่มีจิตสำนึกเป็นประชาธิปไตยและเคารพในอำนาจของประชาชน
หมายเหตุ: เผยแพร่ครั้งแรกใน เฟสบุ๊ค Watana Muangsook
แสดงความคิดเห็น