Posted: 23 Nov 2017 09:05 PM PST  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

ใบตองแห้ง


คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ให้สิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาติ ร่วมขับเคลื่อนไทยแลนด์ 4.0 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

นับเป็นข่าวใหญ่ที่ชาวโลกแตกตื่น รัฐประหารอัตลักษณ์ไทย จะฉีกหน้า UN แอมเนสตี้ ฮิวแมนไรต์วอทช์ ฯลฯ ให้ได้อาย ถึงไม่มาจากเลือกตั้ง ก็เสริมสร้างสิทธิมนุษยชนได้

อ้าว ไม่เห็นหรือ ไผ่ ดาวดิน ก็ได้รางวัลสิทธิมนุษยชนกวางจู ในรัฐบาลนี้นี่เอง

ฝรั่งไม่เข้าใจ สิทธิมนุษยชนไทยไปกันได้กับ ม.44 ทหารเชิญชาวสวนยางไปปรับทัศนคติฉันพี่น้อง ไม่เคยใช้กำลังซ้อมทรมานใคร ส่วนที่ “ซ่อม” กันภายใน เขาเรียกว่า “ธำรงวินัย” เหมือนน้ำท่วมให้เรียกว่าน้ำรอระบาย

รัฐประหาร คสช.ไม่เหมือนใครในโลก เพราะเคารพกฎหมาย ไม่ได้ใช้อำนาจตามอำเภอใจ เพียงแต่ใช้ ม.44 ออกคำสั่งเป็นกฎหมาย แล้วบอกให้ทุกคนเคารพกฎหมาย ใครฝ่าฝืนก็จับกุมดำเนินคดี ตามกระบวนการยุติธรรม โดยมีศาลเป็น ผู้ตัดสิน ไม่ใช่ลุงตู่ไปสั่งยิงเป้าใคร

ลุงตู่เป็นผู้นำที่ใจกว้าง ยอมรับความเห็นต่าง ไม่เห็นหรือ ท่านไปสัตหีบก็ถาม ใครไม่ชอบยกมือขึ้น ชาวบ้านไม่กล้าเอง จนท่านขำ “ไม่กล้าละสิ” ทั้งที่บอกว่ารับได้ ตอบ 6 คำถามอย่างไรก็ไม่โกรธ ไม่ต้องมายกยอปอปั้น แต่เอ๊ะ ตอนพวกดาวดินชู 3 นิ้ว ท่านก็บอกไม่โกรธเหมือนกัน

แถมท่านยังเป็นผู้นำที่ไม่หลงตัวเอง ไหว้พระขอพร ให้ตัวเองเป็นคนดี อย่าหลงลาภยศสรรเสริญ ฉะนั้น ใครอย่าเที่ยวมาชี้หน้าว่าท่านหลงอำนาจ หาว่าท่านอยากสืบทอดอำนาจ จึงตั้ง 6 คำถาม พูดซี้ซั้วอาจมีความผิดฐานเผยแพร่ข้อมูลเท็จ บิดเบือน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

สังคมไทยจึงอยู่เย็นเป็นสุข ไม่มีเลือกตั้งก็ไม่เห็นเดือดร้อนอะไร ไม่มีประชาธิปไตยก็มีสิทธิมนุษยชนได้ ใครไม่ได้ทำความผิดก็ไม่ต้องกลัวอะไร ใครไม่ผิดวินัยก็ไม่โดนซ่อม ปัดโธ่ ลุงป้อมยังโดนซ่อมจนสลบมาแล้ว แต่ฟื้นได้ ไม่ตาย จนเป็นใหญ่เป็นโต

สิทธิมนุษยชนมีที่ยืนเสมอในสังคมไทย ตราบใดที่อยู่ใต้กฎหมาย วินัย คำสั่ง เชื่อฟัง เคารพ ขนบประเพณีอันดีงาม และคำสั่งสอนของผู้หลักผู้ใหญ่

สิทธิมนุษยชนมีที่ยืนเสมอในยุค คสช. ตราบใดที่ไม่ฝ่าฝืนประกาศคำสั่ง ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ห้ามวิพากษ์วิจารณ์ ไม่งั้นยืนเฉยๆ ก็ผิด กดไลก์กดแชร์ก็ผิด เขียนป้ายเวทีวิชาการไม่ใช่ค่ายทหารก็ผิด

แหม่ ก็อย่าไปทำอะไรผิดๆ สิ เวทีสิทธิออกกว้างใหญ่ มีเรื่องให้เคลื่อนไหวรณรงค์เยอะไป เช่น สิทธิเด็ก สิทธิสตรี สิทธิคนพิการ สิทธิผู้สูงวัย รัฐบาลนี้เอาใจทุกอย่าง ไปกระทั่งสิทธิสัตว์ ตั้งรัฐมนตรีหญิง ปลัดกระทรวงหญิง ก็หลายราย คนไร้สัญชาติก็ได้สิทธิสัญชาติไทย ปราบปรามการค้ามนุษย์ก็จริงจังกว่าใคร

สิทธิชุมชน รักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อม ยิ่งดีใหญ่ รัฐอยากให้คนไทยมีจิตอาสา จิตสาธารณะ แต่อย่าเที่ยวมาคัดค้านโรงไฟฟ้า ขัดขวาง EEC ม.44 ผังเมือง ม.44 ไม่ต้องทำ EIA นี่เป็นพวกขัดขวางความเจริญ

ความยุติธรรมก็ใส่ใจนะ เช่นที่ปริญญา เทวานฤมิตรกุล เข้าชื่อเสนอกฎหมาย ให้เลิกใช้เงินประกันตัว “ต้องไม่มีใครติดคุกเพราะจน” คณะกรรมการปฏิรูปอ้ารับ แต่อย่าเที่ยวรณรงค์ “ต้องไม่มีใครติดคุกเพราะเห็นต่าง”

สิทธิมนุษยชน สิทธิพลเมือง ต้องมากับหน้าที่พลเมือง รัฐธรรมนูญมีชัยเขียนไว้ ไม่เข้าใจกันอีกหรือ คนไทยต้องเป็นพลเมืองดี เคารพเชื่อฟัง แล้วถึงจะมีสิทธิ ขนาดกรรมการสิทธิยังมีหน้าที่ต้องปกป้องชื่อเสียงเกียรติภูมิของชาติ ถ้าฝรั่งต่างชาติหาว่ารัฐละเมิดสิทธิ ต้องชี้แจงแก้ต่างให้

โฆษกไก่อูประกาศว่า 2561-2562 จะเป็นวาระแห่งชาติ 4 สร้าง 3 ปรับปรุง 2 ขับเคลื่อน 1 ลด โดยจะสร้างสำนึกสร้างระบบ สร้างวัฒนธรรมเคารพสิทธิ ปรับทัศนคติ สร้างองค์กรต้นแบบ ฯลฯ ฟังแล้วเพริดในจินตนาการ รัฐบาลทหารสถาปนาสิทธิมนุษยชน หวังว่าคงเอาจริงเอาจัง สั่งกองทัพรณรงค์ ส่งทหารไปอบรมเด็ก สั่งมหาดไทยทำป้าย ติดสติ๊กเกอร์ ประกวดคำขวัญ สั่ง กอ.รมน. จัดตั้งมวลชนเป็นองค์กรสิทธิมนุษยชน สั่งตำรวจไปกวาดล้างพวกแอบอ้างสิทธิมนุษยชน มาแถลงข่าวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

สิทธิมนุษยชนน่าจะมาก่อนเลือกตั้ง ก่อนปลดล็อกพรรคการเมือง มาพร้อมกับ “คนจนหมดประเทศ” โดยยังไม่ต้องเลิก ม.44 ซึ่งมีไว้ปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชน เพื่อให้ชาวโลกเห็นว่า “รถคันนี้สีขาว” ประเทศนี้มีสิทธิมนุษยชน



ที่มา: ข่าวสดออนไลน์

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.