Posted: 26 Nov 2017 02:59 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)
เปิด 11 รายชื่อคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของนักเรียนเตรียมทหารภคพงศ์ ตัญกาญจน์ ด้านประธานกรรมการสอบฯ ระบุ "สถาบัน องค์กรใดที่ไม่มีนิติธรรม บุคลากรไม่มีคุณธรรม องค์กรนั้นก็อยู่ไม่ได้"
26 พ.ย. 2560 สำนักข่าวไทย รายงานว่าสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2560 พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ลงนามในคำสั่งที่ 711/60 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยระบุในคำสั่งว่าเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและแนวทางการดำเนินการต่าง ๆ เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย กรณีนักเรียนเตรียมทหารภคพงศ์ ตัญกาญจน์ ขั้นปีที่ 1 ตอน 13 รุ่น 60 เหล่า ทบ. เสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2560 ณ โรงพยาบาลโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โดยคณะกรรมการฯ มีทั้งหมด 11 คน ประกอบด้วย
1. พล.อ.อ.ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหาร เป็นประธานกรรมการฯ
2. พล.อ.ท.วีรพงษ์ นิลจินดา เจ้ากรมกำลังพลทหาร เป็น รองประธานกรรมการ
3. พล.ท.นเรนทร์ สิริภูบาล เสนาธิการสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เป็นรองประธานกรรมการ
4. พล.ท.ณตฐพล บุญงาม เจ้ากรมข่าวทหาร เป็นกรรมการ
5. พล.ท.ศิราวุฒิ วงศ์ขันตี เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร เป็นกรรมการ
6. พล.ท.ชนินทร์ โตเลี้ยง จเรทหาร เป็นกรรมการ
7. พล.ท.พีรพงษ์ เมืองบุญชู ที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย เป็นกรรมการ
8. พล.ต.พรพิศ รัตนานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญทหาร เป็นกรรมการ
9. พล.ต.ชนะ ลิมิตเลาหพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานแพทย์ทหาร กรมยุทธบริการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย
10. พ.อ.ที่รัก สร้อยนาค ผู้อำนวยการกองการปกครอง กรมกำลังพลทหาร เป็นกรรมการและเลขานุการ
11. น.อ.เลิศชัย ภัทรมุทธา รองผู้อำนวยการกองการปกครอง กรมกำลังพลทหาร เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
โดยในหนังสือคำสั่ง กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯไว้ คือ สอบสวนเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงถึงสาเหตุการเสียชีวิตของ นตท.ภคพงศ์ พร้อมข้อเสนอแนะแนวทางการดำเนินการต่าง ๆ , มีอำนาจในการเชิญบุคคลใดๆ มาสอบปากคำหรือซักถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น, ส่วนราชการในกองบัญชาการกองทัพไทย ให้การสนับสนุนในเรื่องที่คณะกรรมการฯ ร้องขอ และ สรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมข้อเสนอแนะในการดำเนินการแล้วรายงานให้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดรับทราบ
ประธานกรรมการสอบข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของ น้องเมย ยันเป็นธรรม เที่ยงตรง
สำนักข่าวไทย ยังรายงานอีกว่าพล.อ.อ.ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหาร ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีการเสียชีวิตของนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ให้สัมภาษณ์ ว่าการรวบรวมข้อมูลต่างๆมีความคืบหน้ามากพอสมควร หลังจากได้ลงพื้นที่สอบถามข้อเท็จจริงจากผู้เกี่ยวข้องในวันเกิดเหตุ คือ 17 ต.ค. 2560 และย้อนหลังไปถึงวันที่ 23 ส.ค. 2560 แต่ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาว่าจะต้องสรุปผลการสอบสวนให้เสร็จภายในกี่วัน เนื่องจากต้องการรวบรวมข้อมูลในทุกแง่มุม ให้ละเอียด รอบคอบ แต่ก็จะรีบดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วเพื่อไม่ให้ประเด็นปัญหาลุกลาม สร้างความเสียหายแก่ทุกฝ่าย
“หากเป็นไปได้ เราก็อยากจะเชิญพ่อแม่นักเรียนเตรียมทหารภคพงศ์ มาสอบถามถึงการได้รับข้อมูลต่างๆว่ามีการสื่อสารผ่านใครบ้างหรือไม่ มีใครให้ข้อมูลที่บิดเบือนจนทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือไม่ ซึ่งเราจะพยายามรวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริงให้ครอบคลุม 360 องศา เราไม่มีการแบ่งว่านี่ฝ่ายครอบครัว ฝ่ายทหาร ฝ่ายโรงเรียนเตรียมทหาร เพราะทั้งหมดเป็นผู้สูญเสียเช่นกัน พ่อแม่สูญเสียลูก พี่สูญเสียน้องชาย กองทัพสูญเสียกำลังพล บุคลากรที่มีค่า รุ่นพี่ สูญเสียรุ่นน้อง” พล.อ.อ.ชวรัตน์ กล่าว
เมื่อถามว่าคณะกรรมการหนักใจหรือไม่ เพราะดูเหมือนสังคมส่วนใหญ่ตัดสินไปแล้วว่าน้องเมยเสียชีวิตจากการถูกธำรงวินัย หรือ การซ่อม รองเสธ.ทหาร กล่าวว่า ข้อเท็จจริง และหลักฐานทางการแพทย์จะเป็นสิ่งยืนยันทุกอย่าง และขอให้สังคมวางใจได้ว่า คณะกรรมการฯที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด แต่งตั้งขึ้น แม้จะไม่มีบุคคลภายนอกร่วมด้วย ก็ยืนยันว่ามีความเป็นธรรม และเที่ยงตรง ทั้งนี้คณะกรรมการฯที่ผบ.ทสส. ตั้งขึ้นมาจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ พล.ท.ณตฐพล บุญงาม เจ้ากรมข่าวทหาร / โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย, พล.อ.ท.วีรพงษ์ นิลจินดา เจ้ากรมกำลังพลทหาร, พล.ท.ศิราวุฒิ วงศ์ขันตี เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร พล.ต.พรพิศ รัตนานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญทหาร เป็นต้น
“คณะกรรมการฯ คงไม่ยึดเอาผลประโยชน์ส่วนบุคคล มาเป็นที่ตั้งมากกว่าผลประโยชน์ขององค์กร หรือ สถาบัน องค์กรใดที่ไม่มีนิติธรรม บุคลากรไม่มีคุณธรรม องค์กรนั้นก็อยู่ไม่ได้” รองเสธ.ทหาร กล่าว
แสดงความคิดเห็น