รวต รุทมนี ประธานสหพันธ์แรงงานก่อสร้างของประเทศกัมพูชาา (CCTUF) ผู้แสวงหาที่ลี้ภัย

Posted: 13 Dec 2018 02:16 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Thu, 2018-12-13 17:16


มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทางการไทยต้องรับผิดชอบ กรณีส่งตัว รวต รุทมนี นักสหภาพแรงงานให้ทางการกัมพูชา ชี้เสี่ยงต่อภัยประหัตประหารและไม่ได้ดำเนินการผ่านขั้นตอนตาม กม.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน

13 ธ.ค.2561 มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้ ทางการไทยต้องรับผิดชอบ กรณีส่งตัว รวต รุทมนี (Rath Rott Mony)ให้ทางการกัมพูชา ซึ่งเสี่ยงต่อภัยประหัตประหาร โดยแถลงการณ์ระบุว่า เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา มูลนิธิผสานวัฒนธรรมได้รับทราบข่าวจากทนายความที่ติดตามเพื่อให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ รวต รุทมนี ผู้แสวงหาที่ลี้ภัยซึ่งเป็นนักกิจกรรมด้านแรงงานและด้านสิทธิมนุษยชนชาวกัมพูชาว่าทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ส่งตัว รวต ให้แก่ทางการกัมพูชาไปเมื่อเวลาประมาณเที่ยงของวันที่ 12 ธ.ค. 2561 และได้รับคำยืนยันจากหน่วยงานระหว่างประเทศว่า รวตได้ถูกส่งตัวถึงประเทศกัมพูชาแล้วในเวลาประมาณ 16.30 น. ขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม เพราะทางการไทยและกัมพูชาไม่ได้เปิดเผยสถานที่ควบคุมตัวของ รวต และเขาอาจต้องตกอยู่ในภาวะที่เสียงต่อการทรมาน หรือเผชิญกับภัยประหัตประหารจากทางการกัมพูชา

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ระบุว่า การส่งกลับ รวต ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่ได้ดำเนินการผ่านขั้นตอนตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551 ซึ่งต้องดำเนินการโดยกระทรวงต่างประเทศและสำนักงานอัยการสูงสุด โดยร้องขอต่อศาลเพื่อส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดน แต่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกลับอ้างว่าเขาเป็นบุคคลที่มีหมายจับต่างประเทศไม่สามารถเข้าประเทศไทย จึงต้องผลักดันกลับ ทั้ง ๆที่ รวตได้เข้ามาในราชอาณาจักรและอยู่ในราชอาณาจักรอย่างถูกกฎหมายมาระยะหนึ่งแล้ว

เมื่อ รวต ถูกจับในวันที่ 7 ธ.ค. ต่อมาวันที่ 11 ธ.ค. ทนายความอาสาที่ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่รวตได้ทำหนังสือขอเข้าพบแต่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองปฏิเสธไม่ให้พบกับ รวต เพื่อให้คำปรึกษาทางกฎหมาย ขณะที่ รวต ยังอยู่ในการควบคุมตัวของทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่สวนพลู

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม เห็นว่าการส่งกลับบุคคลที่เสี่ยงต่อการถูกทรมาน บังคับให้สูญหาย รวมทั้งถูกดำเนินคดีที่ไม่เป็นธรรม อย่างเช่นกรณี รวต เป็นการส่งกลับโดยไม่ผ่านขั้นตอนของกฎหมายว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน นอกจากขัดต่อกฎหมายไทยเองแล้ว ยังขัดต่อกฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศที่ห้ามส่งบุคคลกลับออกไปหากว่าบุคคลนั้นอาจต้องเผชิญกับอันตรายหรือภัยประหัตประหาร (nonrefoulment) และขัดต่อพันธกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศไทยมีอยู่ตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานขององค์กรสหประชาชาติ ที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550
“การส่งนายรวต รุทมณีเป็นการตัดสินใจทางการเมืองที่ผิดพลาด และสร้างความเสียหายให้กับประเทศไทย ดังนั้นจึงขอให้รัฐบาลไทยรับผิดชอบแสวงหาข้อมูลเรื่องการควบคุมตัวนายรวต รุทมณี และการรับประกันจากทางการกัมพูชาว่านายรวต รุทมณีจะได้รับความปลอดภัย และได้รับสิทธิในการดำเนินคดีที่เป็นธรรม รวมทั้งต้องเปิดเผยสถานที่ควบคุมตัวของเขาด้วย” สมชาย หอมลออ ที่ปรึกษามูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าว พร้อมระบุว่า นอกจากนี้ มูลนิธิฯจะทำหนังสือขอให้รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและชี้แจงต่อประชาชนและนานาชาติว่าการส่งตัว รวตให้แก่ทางการกัมพูชานั้น เป็นการดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายไทยและกฎหมายระหว่างประเทศหรือไม่ และเจ้าหน้าที่ใดต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการดังกล่าว

เกี่ยวกับ รวต รุทมนี นั้น มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ระบุว่า เขาเป็นประธานสหพันธ์แรงงานก่อสร้างของประเทศกัมพูชาา (CCTUF) ซึ่งเป็นเครือข่ายระดับโลก และต่อมาทำหน้าที่เป็นล่ามและผู้ประสานงานให้กับสื่อมวลชนต่างประเทศ โดยได้ผลิตสารคดีเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ร่วมกับสำนักข่าวต่างประเทศ ต่อมามีข่าวว่าทางการกัมพูชากล่าวหาทำให้เกิดความแตกแยกในประเทศ รวต เข้าเมืองไทยมาเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2561 ด้วยมีหนังสือเดินทางและวีซ่าถูกต้องเป็นการเข้าเมืองถูกกฎหมาย โดยก่อนหน้านี้ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2561 เนื่องจากการกดดันทางการเมืองต่อนักกิจกรรมแรงงานในประเทศกัมพูชาอย่างหนัก รวต ได้ยื่นคำร้องขอลี้ภัยไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายนและขณะนี้อยู่ในขึ้นตอนการพิจารณาเข้าข่ายเป็นผู้แสวงหาที่ลี้ภัยที่จะได้รับการคุ้มครองจากประชาคมระหว่างประเทศและจาก UNHCR

เมื่อสำนักงาน UHCHR ได้รับข้อมูลว่าผู้แสวงหาที่ลี้ภัยที่ได้ลงทะเบียนไว้แล้วถูกจับกุม เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา จึงได้สัมภาษณ์และพูดคุยกับ รวต ที่ห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่สวนพูล ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งว่านายรวต รุทมณีอยู่ในการคุ้มครองของ UNHCR ในวันที่ 12 ธ.ค. วันเดียวกับที่ รวต ถูกส่งกลับโดยทางฮอลิคอปเตอร์เจ้าหน้าที่ของสำนักงานองค์การสหประชาชาติได้ติดต่อขอเข้าพบและทราบว่า รวต ถูกส่งกลับไปแล้ว

[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.