ภาพจากเฟซบุ๊ค พรรคไทยรักษาชาติ

Posted: 13 Dec 2018 02:54 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Thu, 2018-12-13 17:54


จาตุรนต์ ฉายแสง ซัดรัฐบาลเผด็จการทำประเทศเสียหายหลายด้าน เพราะผู้ขาดวุฒิภาวะ ไร้ประสบการณ์ในการบริหารประเทศ ทำงานผิดพลาด ปิดกั้นการตรวจสอบ และไม่ฟังเสียงประชาชน แต่ยังเชื่อประเทศนี้ยังมีหวังหากพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยได้รับชัยชนะ ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ ควรประกาศหยุดใช้ ม.44 เพราะเป็นนักการเมืองเต็มตัวแล้ว

13 ธ.ค. 2561 มติชนออนไลน์ และคมชัดลึกออนไลน์ รายงานว่า วันนี้ ที่ห้องพอร์ทอล บอลรูม เมืองทองธานี พรรคไทยรักษาชาติ จัดเวทีสัมมนาว่าที่ผู้สมัครรับการเลือกตั้งจากทั่วประเทศ โดยมีกรรมการบริหารพรรคการเมืองเดินทางมาร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง อาทิ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค จาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสาตร์พรรค ฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรค มิตติ ติยะไพรัช เลขาธิการพรรค พิชิต ชื่นบาน ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเทียนพรรค

ร.ท. ปรีชาพล กล่าวในการสัมมนาว่า วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แต่ประเทศไทยกลับถูกทำให้หยุดนิ่งอยู่กับที่ เพราะระบอบการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย และมีกฎหมายต่างๆ ที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนาประเทศ ประชาชนยังขาดสิทธิเสรีภาพ ขาดการมีส่วนร่วม ขาดโอกาสในการทำมาหากินและพัฒนศักยภาพตัวเอง สิ่งที่เป็นหลักฐานสะท้อนอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจไทยได้ดีคือ ข้อมูลจากรายงาน World Economic Forum ปี 2017 ที่ระบุว่า อุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจไทยคือ 1.ความไม่มั่นคงของรัฐบาล และการทำรัฐประหาร 2.การไม่มีความสามารถในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ 3.การขาดความต่อเนื่องทางนโยบาย 4.ความไร้ประสิทธิภาพของระบบราชการไทย และ 5.การทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ตอกย้ำให้เห็นว่า ประเทศไทยถูกขังอยู่ภายใต้แนวคิดเดิมๆ

ร.ท. ปรีชาพล กล่าวต่อว่า พรรคไทยรักษาชาติ ได้หลอมรวมความคิดจากคนรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์ และคนรุ่นต่างๆ ที่มีประสบการณ์ซึ่งได้ทำหลายเรื่องประสบความสำเร็จมาแล้วในอดีต ทั้งยังเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลก เข้าใจประชาชน และกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ก้าวทันโลก ก้าวทันเทคโนโลยีเพื่อปลดปล่อยศักยภาพของคนไทยที่ถูกทำให้หยุดนิ่งมานาน พรรคไทยรักษามุ่งหวังจะพัฒนาศักยภาพของคนไทย พัฒนาขีดความสามารถของประเทศ ยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชน และคืนศักดิ์ศรีให้กับคนไทย เวลานี้พรรคไทยรักษาชาติพร้อมที่จะเข้าไปรับใช้ประชาชน และจะไม่ยอมให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่ตกยุค

จาตุรนต์ ซัดไทยเสียหายหลายอย่างจากรัฐบาลเผด็จการ แต่ประเทศนี้ยังมีหวังหากฝ่ายประชาธิปไตยชนะการเลือกตั้ง

จาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า วันนี้เป็นการพูดในที่สาธารณะหลังจากมีการปลดล็อกทางการเมืองเป็นครั้งแรก ที่ผ่านมาได้เคยจัดแถลงข่าวไป 2 ครั้ง ก็ถูกรัฐบาล คสช. แจ้งความดำเนินคดีทั้งหมด วันนี้เมื่อปลดล็อกแล้วก็จะพูดว่า ที่มาตลอด 5 ปีมารัฐบาลเผด็จการทำประเทศเสียหายอย่างไรบ้าง และรัฐบาลประชาธิปไตยจะทำให้บ้านเมืองดีขึ้นได้อย่างไร

จาตุรนต์ ย้ำว่า พรรคไทยรักษาชาติเป็นพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยอย่างเต็มตัว มีภารกิจสำคัญคือการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ และไทยรักษาชาติจะเป็นตัวชี้ขาดให้ฝ่ายประชาธิปไตยได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ และจะร่วมกับประชาชนทั้งประเทศแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย แม้จะมีกลไกในรัฐธรรมที่ป้องกันการแก้ไข แต่ไทยรักษาชาติจะกระโจนเข้าไปเป็นพรรคแรกที่จะร่วมกับประชาชนในการผลักดันให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

จาตุรนต์ กล่าวต่อว่า วันนีไทยก้าวไม่ทันโลก และย่ำอยู่กับที่ หรือเดินถอยหลัง ประเทศจมอยู่กับการยื้อกันไปมาระหว่างประชาธิปไตยและเผด็จการ ตั้งแต่การรัฐประหารปี 2549 รัฐประหารปี 2557 ลากยาวมาจนถึงทุกวันนี้ ประเทศไทยจึงจมอยู่กับการปกครองที่รวบอำนาจ ไม่ฟังเสียงประชาชน ไม่มีการตรวจสอบ ทั้งยังมีการวางแผนสืบทอกอำนาจให้มีการปกครองแบบนี้ไปอีก 20 ปี ประเทศไทยเป็น 1 ใน 2 ประเทศในโลกที่ยังปกครองโดยรัฐบาลทหาร ปกครองโดยผู้นำที่ไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์ในการปกครองประเทศ และเป็นผู้นำที่ไร้วุฒิภาวะอย่างหาที่สุดไม่ได้ ขณะที่ 4 ปีมานี้เศรษฐกิจของไทยเติบโตช้าที่สุดหากเทียบกับ 10 ประเทศอาเซียน ซึ่งเป็นผลจากการบริหารประเทศที่ผิดพลาดของ คสช. ที่ผ่านมามีการพูดเรื่องปฎิรูปก่อนเลือกตั้ง แต่ 4-5 ปีที่ผ่านมา ไม่มีการปฎิรูปอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน

“หลายท่านทราบดีว่า รัฐบาลที่แล้วมีโครงการรถไฟความเร็วสูงและจะพัฒนาระบบคมนาคมทั่วประเทศ เราได้ยินตัวเลข 2 ล้านล้านบาท โครงการนั้นต้องหยุดชงักล้มไป ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่าประเทศนี้จะต้องทำให้ถนนลูกรังทั่วประเทศเป็นถนนลาดยางเสียก่อน ต่อมาเราได้ยินโครงการรถไฟความเร็วสูง ตัวเลข 3 ล้านล้านบาท ผ่านไปแล้ว 5 ปี ปรากฎว่า 3 กิโลเมตรยังสร้างไม่เสร็จเลย” จาตุรนต์ กล่าว

จาตุรนต์ กล่าวต่อไปว่า การท่องเที่ยวในรอบหลายปีที่ผ่านมาตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติกำลังสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และเป็นที่น่าพอใจ แต่เพราะการขาดวุฒิภาวะของผู้นำ คำพูดเพียงไม่กี่คำของรองนายกรัฐมนตรี ทำให้ยอดตัวเลขนักท่องเที่ยวลดลงอย่างมาก และยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้ ขณะที่รัฐบาลพยายามบอกว่าวันนี้เศรษฐกิจไทยเติบโตขึ้น แต่คนทำมาหากิน ประชาชนทั่วไปกำลังเผชิญหน้ากับการขาดรายได้ ไม่มีเงินในกระเป๋า ปัญหาสำคัญของเศรษฐกิจไทยคือ รวยกระจุกจนกระจาย ทั้งหมดนี้เกิดจากการบริหารที่ผิดพลาดไม่ฟังเสียงประชาชน วันนี้ไทยรักษาชาติจะต้อง สร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศ เพื่อให้เกิดการลงทุน ส่งเสริมผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลาง และขนาดเล็กให้เข้าถึงแหล่งทุน และแหล่งความรู้ มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตอล และสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นในภาวะประชาธิปไตย โดยรัฐบาลประชาธิปไตย ปัญหาที่กล่าวมาทั้งหมดมีทางออก หากร่วมมือกับประชาชน หยุดการสืบทอดอำนาจ สร้างรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยขึ้นมาแก้ไขปัญหาประเทศ ประเทศนี้ยังมีหวัง

ต่อมาในการให้สัมภาษณ์ จาตุรนต์ ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศตัวชัดเจนแล้วว่า ตัวเองเป็นนักการเมือง สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ ควรจะทำต่อจากนี้มี 2 เรื่องคือ 1.ควรประกาศลดสถานะรัฐบาลเป็นรัฐบาลรักษาการณ์โดยเร็ว และให้ทุกอย่างอยู่ในการดูแลของ กกต. ไม่อนุมัติงบประมาณโครงการใหญ่ที่มีงบประมาณผูกพัน รวมไปถึงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการก็ต้องเสนอความเห็นชอบจาก กกต. 2.พล.อ.ประยุทธ์ ควรประกาศให้ชัดเจนว่า จะไม่ใช้มาตรา 44 แทรกแซงการทำงานของ กกต. และการจัดการเลือกตั้ง ควรจะแสดงสำนึกที่จะไม่เอาเปรียบพรรคอื่น
ให้ประยุทธ์สละเก้าอี้ หัวหน้า ตสช. ยากกว่าใช้หัวเดินต่างเท้า

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรสละตำแหน่งหัวหน้า คสช. ด้วยหรือไม่ จาตุรนต์ตอบว่า การจะให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากการเป็นหัวหน้า คสช. ยากกว่าการใช้หัวเดินต่างเท้า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศว่าจะไม่ใช้ ม.44 แทรกแซงการเลือกตั้งก็ถืเป็นความพอใจระดับหนึ่ง แต่ถ้าจะให้ดีต้องงดใช้ ม.44 ที่จะไปทำให้เกิดปัญห่ใหม่ๆ ขึ้นอีก

เมื่อถามว่า จาตุรนต์ และร.ท.ปรีชาพล จะลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตใดหรือไม่ ร.ท. ปรีชาพล กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันว่า ในฐานะที่เราจะต้องนำทีมลงหาเสียงพบปะพี่น้องประชาชน การลงสมัครในระบบเขตเลือกตั้งเวลาอาจจะไม่เพียงพอ แต่ทั้งนี้จะต้องขึ้นอยู่คณะกรรมการสรรหา และสำหรับผู้ที่เราชวนมาร่วมงานในวันนี้คือผู้ที่แสดงความจำนงค์จะสมัครส.ส.ของพรรค แต่กระบวนการสรรหาต่อจากนี้จะต้องมีการส่งรายชื่อลงไปรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ด้วย จึงจะสรุปได้ว่าใครจะเป็นผู้สมัคร

เมื่อถามถึงกรณีให้ผู้สมัครใช้เบอร์ไม่เหมือน ทำให้ไม่สามารถพิมพ์บัตรเลือกตั้งที่ใส่โลโก้และชื่อพรรคได้ ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า คิดว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะต้นเหตุอยู่ที่คนออกแบบบัตรมากกว่า ที่ออกมาให้มีปัญหา ดังนั้นเมื่ออกแบบมาให้มีปัญหาก็จะต้องแก้ปัญหาให้กับประชาชน ไมใช่โยนปัญหาให้กับประชาชนแก้เอง

ส่วนได้มีการหารือกับพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยพรรคอื่น เรื่องการจับมือกันจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ จาตุรนต์ กล่าวว่า ยังไม่มีการคุย ส่วนที่มีการพูดคุยจะเป็นพูดแบบใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวเพราะเราเห็นปัญหาร่วมกันก็คุยกันได้ หรือเวลาเจอกันก็คุยกัน แต่การจัดตั้งรัฐบาลร่มกันนั้นยังเร็วเกินไป ที่จะสามารถพูดได้ ทั้งนี้พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยถือเป็นพันธมิตรกันโดยธรรมชาติ สามารถคุยกันได้ แต่ต้องดูผลการเลือกตั้งที่จะออกมาด้วย



เรีบยเรียงจาก : มติชนออนไลน์ 1 , 2 , คมชัดลึกออนไลน์

[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.