ที่มา: BJP.org
Posted: 24 Dec 2018 06:27 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Mon, 2018-12-24 21:27
พรรครัฐบาลอินเดีย BJP ของนายกรัฐมนตรีโมดี ซึ่งชนะการเลือกตั้งปี 2014 ส่อสัญญาณถดถอยหลังแพ้การเลือกตั้งระดับท้องถิ่นไปสามรัฐ ส่วนโมดีเองก็ยังคงเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจและการว่างงานที่แก้ไม่ตก แทนที่ BJP จะลอยลำเหมือนที่เคยคาดกลับต้องท้าทายกับผลการเลือกครั้งหน้าตั้งอีกครั้ง
CNN เผยแพร่บทรายงานเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีเนื้อหาประมวลเหตุการณ์ทางการเมืองต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียคนปัจจุบันและพรรคภารตียชนตา (BJP) ประเด็นสำคัญของบทความคือในขณะที่การเลือกตั้งทั่วไปของอินเดียจะจัดขึ้นในปีหน้า ภาพลักษณ์ของโมดีกำลังอ่อนแอลง
แม้ก่อนหน้านี้ โมดีและพรรคของเขาจะคว้าชัยการเมืองอย่างถล่มทลายทั้งในการเลือกตั้งทั่วไปและการเลือกตั้งระดับรัฐ ซึ่งการที่พรรค BJP ก็ยังชนะการเลือกตั้งระดับรัฐในรัฐอุตรประเทศซึ่งเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดในอินเดียในปี 2017 ก็ย้ำถึงการเพิ่มขึ้นของความนิยมต่อพรรค BJP
อย่างไรก็ตาม สัญญาณของความถดถอยก็เริ่มเข้ามาท้าทายโมดีและพรรค BJP ผลการเลือกตั้งระดับรัฐในเดือนนี้เริ่มแสดงให้เห็นถึงความพ้ายแพ้ของพรรคดังกล่าว คู่แข่งของ BJP อย่าง พรรคคองเกรสแห่งชาติอินเดีย (INC) คว้าคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในราชสถานและฉัตตีสครห์ ผลักให้ BJP หลุดจากอำนาจรัฐบาลในรัฐนั้นไป ส่วนในมัธยประเทศ แม้ INC จะไม่ได้ที่นั่งพอจะเป็นเสียงส่วนใหญ่ แต่ก็ทำให้ BJP พ้นจากตำแหน่งรัฐบาลท้องถิ่นไปเช่นกัน
ทั้งสามรัฐที่พ่ายแพ้นี้ เคยเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ BJP ชนะการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2014 ด้วยจำนวนผู้ชนะถึง 282ที่นั่งและได้ขึ้นสู่อำนาจในที่สุด ในขณะเดียวกัน INC ซึ่งเป็นพรรคที่ชนะการเลือกตั้งมากที่สุดในช่วงหลังได้รับเอกราช กลับมีคะแนนเสียงที่ถดถอยลงไปเหลือแค่ 44 ที่นั่ง
ในขณะที่ความนิยมต่อ BJP ถดถอยลงไปตอนนี้ กลุ่มชาตินิยมหัวรุนแรงเองก็กำลังจุดชนวนความขัดแย้งเพื่อปลุกระดมฐานเสียงฝ่ายขวาของพรรค ในเมืองอโยธยา รัฐอุตรประเทศ มีการเดินขบวนเรียกร้องให้สร้างเทวาลัยเทพรามซึ่งเป็นเทพฮินดู ซึ่งครั้งหนึ่งบริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของมัสยิดแต่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมฝ่ายขวาทุบทำลายไปเมื่อช่วงต้นทศวรรษ 1990 ข้อเรียกร้องนี้ได้ก่อให้เกิดความวุ่นวายทั่วประเทศ ฝ่ายชาตินิยมรู้สึกฮึกเหิมกับประเด็นดังกล่าวในขณะที่ฝ่ายเสรีนิยมกลับกังวลว่าข้อเรียกร้องนี้จะก่อให้เกิดความแตกแยก เหตุการณ์ยิ่งน่ากังวลมากขึ้นเมื่อมีการใช้ศาลเตี้ยต่อคนส่วนน้อยอย่างชาวมุสลิมเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ซึ่งผลการเลือกตั้งระดับรัฐที่ออกมาก็เป็นที่กังวลกันว่าอาจจะทำให้โมดีแสดงท่าทีเป็นอนุรักษ์นิยมมากขึ้นเพื่อกระชับฐานเสียงของเขาก่อนการเลือกตั้งในปีหน้า อย่างไรก็ตาม ก็ไม่แน่ว่าการกระทำเช่นนั้นจะได้ผล หนังสือพิมพ์เดอะฮินดูได้ตั้งข้อสังเกตว่า แม้การจุดประเด็นความขัดแย้งอาจส่งผลต่อผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่ปัญหาสำคัญอยู่ที่ชีวิตความเป็นอยู่มากกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่โมดีจัดการได้ไม่ดีตั้งแต่เขาได้รับเลือกเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี
ในช่วง 2014 โมดีได้คะแนนเสียงมากมายจากการให้สัญญาว่าเขาจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสร้างงานให้แก่คนรุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นคือปัญหาการว่างงานยังคงเลวร้ายลง นอกจากนี้ ยังมีปัญหารายได้ที่ตกต่ำในเขตชนบทซึ่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเหล่าเกษตรกรจนมีการเดินประท้วง ซึ่งการเดินประท้วงครั้งล่าสุดในเดลี บางคนเดินถือกะโหลกและรูปภาพของผู้ที่พวกเขาอ้างว่าฆ่าตัวตายเพราะสิ้นหวังกับความจน
แม้ผู้เชี่ยวชาญจะมองว่าโมดีและ BJP ลอยลำในการเลือกตั้งจนกระทั้งเมื่อไม่นานมานี้ แต่สถานการณ์ที่เขาดูอ่อนแอลงอาจทำให้การเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้าดูท้าทายมากขึ้น
Submitted on Mon, 2018-12-24 21:27
พรรครัฐบาลอินเดีย BJP ของนายกรัฐมนตรีโมดี ซึ่งชนะการเลือกตั้งปี 2014 ส่อสัญญาณถดถอยหลังแพ้การเลือกตั้งระดับท้องถิ่นไปสามรัฐ ส่วนโมดีเองก็ยังคงเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจและการว่างงานที่แก้ไม่ตก แทนที่ BJP จะลอยลำเหมือนที่เคยคาดกลับต้องท้าทายกับผลการเลือกครั้งหน้าตั้งอีกครั้ง
CNN เผยแพร่บทรายงานเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีเนื้อหาประมวลเหตุการณ์ทางการเมืองต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียคนปัจจุบันและพรรคภารตียชนตา (BJP) ประเด็นสำคัญของบทความคือในขณะที่การเลือกตั้งทั่วไปของอินเดียจะจัดขึ้นในปีหน้า ภาพลักษณ์ของโมดีกำลังอ่อนแอลง
แม้ก่อนหน้านี้ โมดีและพรรคของเขาจะคว้าชัยการเมืองอย่างถล่มทลายทั้งในการเลือกตั้งทั่วไปและการเลือกตั้งระดับรัฐ ซึ่งการที่พรรค BJP ก็ยังชนะการเลือกตั้งระดับรัฐในรัฐอุตรประเทศซึ่งเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดในอินเดียในปี 2017 ก็ย้ำถึงการเพิ่มขึ้นของความนิยมต่อพรรค BJP
อย่างไรก็ตาม สัญญาณของความถดถอยก็เริ่มเข้ามาท้าทายโมดีและพรรค BJP ผลการเลือกตั้งระดับรัฐในเดือนนี้เริ่มแสดงให้เห็นถึงความพ้ายแพ้ของพรรคดังกล่าว คู่แข่งของ BJP อย่าง พรรคคองเกรสแห่งชาติอินเดีย (INC) คว้าคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในราชสถานและฉัตตีสครห์ ผลักให้ BJP หลุดจากอำนาจรัฐบาลในรัฐนั้นไป ส่วนในมัธยประเทศ แม้ INC จะไม่ได้ที่นั่งพอจะเป็นเสียงส่วนใหญ่ แต่ก็ทำให้ BJP พ้นจากตำแหน่งรัฐบาลท้องถิ่นไปเช่นกัน
ทั้งสามรัฐที่พ่ายแพ้นี้ เคยเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ BJP ชนะการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2014 ด้วยจำนวนผู้ชนะถึง 282ที่นั่งและได้ขึ้นสู่อำนาจในที่สุด ในขณะเดียวกัน INC ซึ่งเป็นพรรคที่ชนะการเลือกตั้งมากที่สุดในช่วงหลังได้รับเอกราช กลับมีคะแนนเสียงที่ถดถอยลงไปเหลือแค่ 44 ที่นั่ง
ในขณะที่ความนิยมต่อ BJP ถดถอยลงไปตอนนี้ กลุ่มชาตินิยมหัวรุนแรงเองก็กำลังจุดชนวนความขัดแย้งเพื่อปลุกระดมฐานเสียงฝ่ายขวาของพรรค ในเมืองอโยธยา รัฐอุตรประเทศ มีการเดินขบวนเรียกร้องให้สร้างเทวาลัยเทพรามซึ่งเป็นเทพฮินดู ซึ่งครั้งหนึ่งบริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของมัสยิดแต่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมฝ่ายขวาทุบทำลายไปเมื่อช่วงต้นทศวรรษ 1990 ข้อเรียกร้องนี้ได้ก่อให้เกิดความวุ่นวายทั่วประเทศ ฝ่ายชาตินิยมรู้สึกฮึกเหิมกับประเด็นดังกล่าวในขณะที่ฝ่ายเสรีนิยมกลับกังวลว่าข้อเรียกร้องนี้จะก่อให้เกิดความแตกแยก เหตุการณ์ยิ่งน่ากังวลมากขึ้นเมื่อมีการใช้ศาลเตี้ยต่อคนส่วนน้อยอย่างชาวมุสลิมเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ซึ่งผลการเลือกตั้งระดับรัฐที่ออกมาก็เป็นที่กังวลกันว่าอาจจะทำให้โมดีแสดงท่าทีเป็นอนุรักษ์นิยมมากขึ้นเพื่อกระชับฐานเสียงของเขาก่อนการเลือกตั้งในปีหน้า อย่างไรก็ตาม ก็ไม่แน่ว่าการกระทำเช่นนั้นจะได้ผล หนังสือพิมพ์เดอะฮินดูได้ตั้งข้อสังเกตว่า แม้การจุดประเด็นความขัดแย้งอาจส่งผลต่อผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่ปัญหาสำคัญอยู่ที่ชีวิตความเป็นอยู่มากกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่โมดีจัดการได้ไม่ดีตั้งแต่เขาได้รับเลือกเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี
ในช่วง 2014 โมดีได้คะแนนเสียงมากมายจากการให้สัญญาว่าเขาจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสร้างงานให้แก่คนรุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นคือปัญหาการว่างงานยังคงเลวร้ายลง นอกจากนี้ ยังมีปัญหารายได้ที่ตกต่ำในเขตชนบทซึ่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเหล่าเกษตรกรจนมีการเดินประท้วง ซึ่งการเดินประท้วงครั้งล่าสุดในเดลี บางคนเดินถือกะโหลกและรูปภาพของผู้ที่พวกเขาอ้างว่าฆ่าตัวตายเพราะสิ้นหวังกับความจน
แม้ผู้เชี่ยวชาญจะมองว่าโมดีและ BJP ลอยลำในการเลือกตั้งจนกระทั้งเมื่อไม่นานมานี้ แต่สถานการณ์ที่เขาดูอ่อนแอลงอาจทำให้การเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้าดูท้าทายมากขึ้น
แสดงความคิดเห็น