96 องค์กรวิชาการและภาคประชาสังคมร่วมเรียกร้องรัฐบาลหยุดปิดกั้นเสรีภาพและเลือกตั้งโดยเร็ว
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง ร่วมกับอีก 96 องค์กรภาคประชาสังคมเรียกร้องรัฐบาลคืนเสรีภาพหลังประชามติผ่านไปแล้ว และขอให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. แจงขอให้เคารพเสียงของคนที่มาลงประชามติ ที่ผ่านมาไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือทำเกินหน้าที่ และประชามติผ่านมาแล้วอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม

เครือข่ายดังกล่าวระบุว่า ผลประชามติดังกล่าวไม่อาจนับเป็นฉันทานุมัติหรือ “ใบอนุญาต” ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช. ดำเนินการตามอำเภอใจโดยไม่ฟังเสียงฝ่ายใดได้ เนื่องจากที่ผ่านมากระบวนการประชามติไม่ได้เกิดขึ้นอย่างอิสระและเป็นธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญไม่ทั่วถึง ประชาชนจำนวนมากไม่มีโอกาสรับรู้ และ การที่มีผู้ออกเสียงไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญร้อยละ 38.60 แสดงให้เห็นว่ายังคงมีประชาชนที่เห็นต่างต่ออนาคตสังคมไทยผ่านร่างรัฐธรรมนูญอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น คสช. จึงไม่สามารถอาศัยผลการออกเสียงประชามติเป็นข้ออ้างในการปฏิเสธที่จะตอบคำถามและข้อวิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงสั่งห้ามการเคลื่อนไหวของฝ่ายเห็นต่างแม้ร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านความเห็นชอบแล้วก็ตาม

ทั้ง 96 องค์กรเรียกร้องให้รัฐบาลและคสช. ยุติการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญและการเมืองหยุดการใช้อำนาจพิเศษกฎหมายพิเศษและศาลทหารกับประชาชน และเปิดให้ประชาชนทุกฝ่ายได้แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาร่วมกันบนพื้นฐานสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการรับรองและคุ้มครองโดยรัฐธรรมนูญและข้อตกลงระหว่างประเทศที่ไทยเป็นภาคี รวมถึงยุติการจับกุมคุมขังและดำเนินคดีประชาชนที่รณรงค์ประชามติและแสดงความเห็นแย้งร่างรัฐธรรมนูญและปล่อยตัวผู้ที่ถูกคุมขังก่อนหน้านี้โดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข ยกเลิกการใช้อำนาจพิเศษตามมาตรา 44 กลับมาใช้กลไกตามกฎหมายปกติ และให้มีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาทบทวนยกเลิกประกาศและคำสั่งของคสช.ที่ละเมิดสิทธิประชาชนโดยเร็ว

องค์กรทั้ง 96 แห่งยังเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ประกาศกำหนดระยะเวลาในแต่ละขั้นตอนเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่กระบวนการประชาธิปไตย ให้ประชาชนได้รับทราบโดยทั่วกัน

ด้าน พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีการแถลงของ 96 องค์กรบ่ายนี้ว่า ผลการลงประชามติต่อร่างรัฐธรรมนูญได้มีการประกาศและรับรองอย่างเป็นทางการแล้ว เพราะฉะนั้นถือว่ากระบวนการทุกอย่างมีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม และโปร่งใส และการทำงานของเจ้าหน้าที่ก็กระทำภายใต้กรอบของกฎหมาย และอยากให้อยากให้เคารพสิทธิและเสียงของประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ที่ออกมาใช้สิทธิลงประชามติ

ส่วนข้อเรียกร้องให้ คสช.ปล่อยตัวผู้ที่ถูกคุมขังเนื่องจากการณรงค์ประชามติก่อนหน้านี้โดยทันทีและไม่มีเงื่อนไขนั้น พ.อ.ปิยพงศ์ ระบุว่าต้องดำเนินการไปตามกรอบที่กฎหมายกำหนดและขอย้ำว่าไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน และไม่มีการทำเกินหน้าที่

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.