‘พงศพัศ’เผยตำรวจเตรียมออกหมายจับผู้ก่อเหตุระเบิดบางส่วน ระบุหลักฐานชี้ว่าทั้งหมดเป็นขบวนการเดียวกัน
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงช่วงสายวันนี้ถึงความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนและควบคุมสถานการณ์หลังเกิดเหตุระเบิด 9 จุด ใน 7 จังหวัดภาคใต้ มีผู้เสียชีวิต 4 คนและบาดเจ็บกว่า 30 คนว่าตำรวจและฝ่ายปกครองร่วมกับทหารได้ร่วมกันปฏิบัติการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มข้น ยังไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นอีก ขณะที่พยานหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุชี้ว่าผู้ก่อเหตุระเบิดทั้งหมดน่าจะเป็นขบวนการเดียวกัน โดยชี้ว่าแม้การจุดระเบิดจะมีลักษณะใกล้เคียงกับเหตุในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ยังไม่มีหลักฐานอื่นเชื่อมโยงกัน
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติระบุว่า ผลการประชุมทางไกลกับทุกหน่วยพบว่าการดำเนินการตามมาตรการต่างๆ เป็นไปด้วยดี อาชญากรรมในพื้นที่ทุกภาคก็ลดลงไปมาก แม้แต่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีสายตรวจร่วม ได้แก่ ทหาร ฝ่ายปกครองและตำรวจ ซึ่งจะดำรงความเข้มงวดในการตรวจต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนี้ยังเป็นช่วงวันหยุด จะเพิ่มความเข้มขึ้นในแหล่งท่องเที่ยว แหล่งที่มีประชาชนไปพักผ่อนจำนวนมาก หรือในเมืองใหญ่ที่มีนักท่องเที่ยวอยู่กันเป็นจำนวนมาก มีจุดตรวจ จุดสกัด ทำงานตลอด 24 ชม. และขออภัยประชาชนที่เดินทางไปมา บางพื้นที่อาจจะไม่ได้รับความสะดวก และมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงไปปฏิบัติหน้าที่จำนวนมาก และขอความร่วมมือหากประชาชนมีเบาะแสหรือข้อมูลใดๆ
สำหรับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ช่องทางต่างๆ ที่เข้าประเทศทุกจุด รวมทั้งท่าอากาศยาน ไม่มีความเคลื่อนไหวในเชิงที่เป็นภัยหรือเหตุร้าย
ด้านความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของตำรวจภูธร ภาค 7 ภาค 8 และ 9 ขณะนี้ ยังคงสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่อไป โดยขณะนี้สำนักงานพิสูจน์หลักฐานได้เก็บหลักฐานครบถ้วนแล้ว ทั้งดีเอ็นเอ และวัตถุพยานบางส่วนในที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้ถูกส่งมาที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานส่วนกลางเพื่อตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ น่าจะได้ผลเสร็จสิ้นวันนี้ และส่งกลับไปยังภาคเพื่อประกอบสำนวนการสอบสวน
พล.ต.อ.พงศพัศ ยืนยันว่าตำรวจภูธรภาค 8 น่าจะสามารถดำเนินการขอออกหมายจับผู้ต้องหาได้บางส่วน โดยใช้หลักฐานจากกล้องวงจรปิดซึ่งบางส่วนปรากฏภาพผู้กระทำความผิดชัดเจน โดยฝ่ายสืบสวนได้ดำเนินการประกบติดผู้ต้องสงสัยหรือผู้ที่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว และหากได้พยานหลักฐานครบถ้วนก็จะดำเนินการออกหมายจับภายในวันหรือสองวันนี้ ส่วนเรื่องเครือข่ายผู้สั่งการหรือเครือข่ายผู้กระทำความผิดตามกระบวนการสืบสวนนั้นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีข้อมูลอยู่แล้ว แต่เชื่อว่าเมื่อได้ตัวผู้กระทำผิดจากปลายทาง การขยายผลก็จะเป็นไปตามรูปแบบบนพื้นฐานของการข่าวและหลักฐานที่มีอยู่
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังชี้ว่าล่าสุดพบความเชื่อมโยงในพื้นเกิดเหตุต่างๆ และน่าจะเป็นขบวนการเดียวกัน “ล่าสุดพบความเชื่อมโยงในพื้นเกิดเหตุต่างๆ เกือบจะทุกจุด ที่สามารถสรุปได้เบื้องต้นขณะนี้คือชิ้นส่วนที่เป็นองค์ประกอบในการนำมาประกอบเป็นวัตถุระเบิดมีองค์ประกอบที่คล้ายคลึงกันในแทบจะทุกที่ที่มีการกระทำความผิด โดยเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการทำเป็นขบวนการโดยกลุ่มเดียวกัน ลักษณะการประกอบระเบิดมีลักษณะใกล้เคียงกัน ทั้งนี้ดีเอ็นเอที่ได้ทั้งหมดจากที่เกิดเหตุได้นำมาตรวจสอบที่ส่วนกลางแล้วทั้งหมดและจะมีการเทียบเคียงกับดีเอ็นเอจากจังหวัดชายแดนใต้จำนวนหมื่นกว่าตัวอย่างที่มีอยู่”
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวด้วยว่ารองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้กำชับว่าต้องมีหลักฐานครบถ้วน ถูกต้อง สมบูรณ์ ไม่มีการจับแพะ และบ่ายนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ จะประชุมกับผู้ที่กำลังสืบสวนสอบสวนทั้งหมด น่าเชื่อว่าเป็นการกระทำเป็นขบวนการ มีผู้สั่งการ มีผู้จัดหาวัตถุระเบิด
(ภาพ: เจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยบริเวณศาลพระพรหมเอราวัณในกรุงเทพฯ วันนี้ 13 ส.ค.)

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.