หลายเมืองในขณะนี้ออกคำสั่งแบนชุดว่ายน้ำแบบมุสลิมที่เรียกว่า เบอกินี ซึ่งหากละเมิดจะถูกจดบันทึกลงประวัติอาชญากรรม และเสียค่าปรับ

ขณะนี้ในฝรั่งเศส มีจำนวนเมืองถึง 15 เมืองแล้วที่แบนการสวมใส่ชุดว่ายน้ำแบบมุสลิม ที่มีชื่อเรียกว่า เบอกินี ซึ่งเหตุการณ์ล่าสุดนั้นเกิดขึ้นที่หาดทรายของเมืองนีซ เมื่อหญิงรายหนึ่งที่กำลังนอนพักผ่อนอยู่ และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งให้เธอถอดชุดว่ายน้ำนี้ออก


เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยหลังจากที่เธอยอมถอดชุดออกแต่โดยดี หนึ่งในเจ้าพนักงานได้จดบันทึกชื่อของเธอไว้เป็นหลักฐานอีกด้วย ในข้อหาที่ว่า การแต่งกายของเธอนั้นไม่เคารพศีลธรรมอันดีงามของเมือง

นอกจากนั้นผู้คนรอบๆที่พักผ่อนอยู่ที่หาดยังตะโกนไล่ให้เธอกลับบ้านไป และบางส่วนก็ปรบมือให้กับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ลูกสาวที่มากับเธอถึงกับร้องไห้


เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเมืองนีซ เป็นเมืองล่าสุดที่ประกาศเข้าร่วมการแบนชุดว่ายน้ำเบอกินี คำสั่งนี้มาจากศาลปกครองสูงสุดของฝรั่งเศส โดยกล่าวว่ามีขึ้นเพื่อปกป้องประชาชน และความสุชสงบของประเทศ หลังการโจมตีการก่อการร้ายจากกลุ่มหัวรุนแรงอิสลามบ่อยครั้ง รวมถึงชุดว่ายน้ำดังกล่าวยังแสดงออกถึงการกดขี่เพศหญิงอีกด้วย

ด้าน Aheda Zanetti ดีไซเนอร์สาวชาวออสเตรเลียผู้ออกแบบชุดว่ายน้ำเบอกินีกล่าวว่า ข่าวการแบนส่งผลให้ยอดขายขุดว่ายน้ำพุ่งสูงขึ้นถึง 200% ในโลกออนไลน์ นอกจากนั้นเธอยังกล่าวว่า ชุดว่ายน้ำเบอกินีเป็นการแสดงออกถึงอิสรภาพ และทางเลือกในชีวิตที่เราสามารถเลือกใช้ได้เอง ไม่ใช่การกดขี่แต่อย่างใด และไม่ควรมีใครมากำหนดว่าเราควรสวมใส่อะไร หรือไม่สวมใส่อะไร


ในฤดูร้อนปีนี้มีกรณีหญิงมุสลิมถูกว่ากล่าว หรือไล่ออกจากชายหาดจากการสวมใส่ชุดว่ายน้ำเบอกินีหลายสิบราย บางรายได้รับคำเตือน และบันทึกลงประวัติอาชญากรรม ในขณะที่บางรายต้องเสียค่าปรับจากการละเมิดดังกล่าวเป็นจำนวนเงิน 32 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,200 บาท


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.