ผบ.ตร. ระบุ เกิดเหตุรุนแรงในพื้นที่รับร่างรัฐธรรมนูญ “ไม่เหนือความคาดหมาย”
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติปฏิเสธข่าวจับกุมผู้ต้องสงสัยก่อเหตุระเบิด ทั้งให้ความเห็นว่าไม่เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายที่เกิดเหตุรุนแรงเฉพาะในพื้นที่ที่รับร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนหลักฐานที่พบ ส่วนตัวเห็นว่าอาจมีความเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดในภาคใต้ ในส่วนกรุงเทพมหานครนั้นได้กำชับเป็นพิเศษว่าห้ามเกิดเหตุขึ้นเด็ดขาด เพราะถือเป็นพื้นที่ชั้นใน
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในการประชุมทางไกลหรือเทเลคอนเฟอร์เรนซ์ จากตำรวจภูธรทั้ง 9 ภาค ตำรวจสันติบาล รวมทั้งตำรวจตระเวนชายแดน โดย พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ. ตร. และผู้บัญชาการการสืบสวนสอบสวนกรณีเหตุระเบิดหลายจุดในภาคใต้ ได้ร่วมประชุมทางไกลมาจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เช่นกัน โดยอนุญาตให้ผู้สื่อข่าวได้รับฟังการประชุมเพียงสั้นๆ ไม่เกิน 5 นาที ในระหว่างการประชุม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ระบุว่า ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายที่เกิดเหตุขึ้นในพื้นที่ที่มีการรับร่างรัฐธรรมนูญ แต่อย่างไรก็ตามจะต้องมีการสอบสวนต่อไป
การประชุมดังกล่าวใช้เวลาประชุมราว 1 ชม. จากนั้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติร่วมกับทีมโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงสรุปสถานการณ์ว่า พื้นที่เกิดเหตุมีทั้งสิ้น 7 จังหวัด คือ ตรัง ภูเก็ต นครศรีธรรมราช พังงา กระบี่ ประจวบคีรีขันธ์ และสุราษฎร์ธานี มีผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 32 ราย ขณะนี้ตำรวจกำลังพยายามเก็บหลักฐานต่างๆ ตั้งแต่คืนวานจนถึงขณะนี้ โดยวันที่ 7 ส.ค. ทีผ่านมา มีการเก็บกู้ระเบิดได้ และอยากให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยในทรัพย์สินและชีวิต และจะจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เกี่ยวข้องกับผลการลงประชามติหรือไม่ ผบ.ตร. ตอบเป็นการส่วนตัวว่า ในพื้นที่ที่เกิดเหตุทั้ง 7 จังหวัดเป็นพื้นที่รับร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจจะเกิดกลุ่มที่เห็นต่างที่ต้องการทำลายความน่าเชื่อถือ เมื่อถามว่าผู้ก่อเหตุนั้นมาจากภาคใต้หรือไม่ ผบ.ตร. บอกว่า ของกลางที่พบมีความเชื่อมโยงอยู่ ทั้งนี้ ผบ.ตร. บอกว่าตอบจากประสบการณ์ส่วนตัว แต่ไม่ต้องการให้สื่อเห็นว่าชี้นำ
ผบ.ตร. ยังทักท้วงว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นการแถลงการณ์ของกรรมการสิทธิมนุษยชน หรือองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ออกมาแถลงการณ์อะไรเกี่ยวกับเหตุระเบิด แต่เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ทำ ก็คงออกแถลงการณ์กันไปแล้ว ในส่วนของสถานการณ์นั้นคาดว่าน่าจะจัดการควบคุมได้
ทั้งนี้ ผบ.ตร. ระบุว่า เหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นการก่อการร้ายแต่เป็นการก่อวินาศกรรม เนื่องจากเหตุที่เกิดเป็นการก่อเหตุภายในประเทศ โดยไม่คิดว่าจะมีต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนผู้ก่อเหตุจะเชื่อมโยงโดยอุดมการณ์หรือเป็นการจ้างวานนั้นยังตอบไม่ได้ แต่ก็ต้องขยายผล เช่น การดำเนินคดีนักการเมืองในภาคเหนือที่ถูกกล่าวหาว่าเผยแพร่จดหมายบิดเบือนรัฐธรรมนูญ ‪#‎ThailandBlasts‬


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.