บีบีซีไทย - BBC Thai
ยิ่งลักษณ์ขอให้นายกฯให้ความเป็นธรรมคดีรับจำนำข้าว เช่นเดียวกับที่ปกป้องน้องชาย
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความล่าสุดลงในหน้าเฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra เกี่ยวกับกรณีที่รัฐบาลเร่งรัดดำเนินคดีเกี่ยวกับความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวว่า
“ทุกอย่างที่นายกฯยืนยันออกมาจากปากท่านว่า การดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับคดีดิฉันเป็นไปตามกม.ไม่ได้กลั่นแกล้ง ก็อยากให้นายกฯใช้หลักคิดและให้ความเป็นธรรมกับดิฉัน เหมือนที่ท่านให้ความเป็นธรรมและปกป้องน้องชายท่านรวมทั้งคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพวกเดียวกับท่าน เพราะกม.มีไว้บังคับใช้กับทุกคน ไม่ใช่เลือกปฏิบัติกับฝั่งดิฉันเพียงฝ่ายเดียว”
นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยังได้ออกแถลงการณ์ลงวันที่ 25 กันยายน เรื่องขอให้ทบทวนกระบวนการเรียกค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว และยกเลิกการใช้มาตรา 44 โดยไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่าทางพรรคเห็นว่ารัฐบาลและหัวหน้า คสช. ได้มีความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะมุ่งเอาผิดกับอดีตนายกรัฐมนตรีและผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายกรณีโครงการรับจำนำข้าวให้ได้ โดยไม่สนใจกระบวนการและขั้นตอนของกฎหมาย โดยเห็นได้ชัดเจนจากคำให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. และรองนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ที่พยายามชี้นำสังคมและชี้นำการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ให้เห็นว่า บุคคลเหล่านั้นได้กระทำความผิดและต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายโดยเร็ว จนถึงขนาดใช้อำนาจพิเศษตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ เปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ของกฎหมายปกติที่ใช้บังคับทั่วไป เพื่อนำมาใช้กับกรณีนี้เป็นการเฉพาะ
พรรคเพื่อไทยได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นการลุแก่อำนาจ สร้างความไม่ชอบธรรมแก่ผู้ที่ถูกกล่าวหา และเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม ทั้งที่กรณีโครงการรับจำนำข้าว ได้มีการฟ้องคดีอาญาต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้วและขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล อีกทั้งยังเป็นนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้การอุดหนุนด้านการเกษตรแก่ชนกลุ่มใหญ่ของประเทศ ซึ่งทุกรัฐบาลก็มีการดำเนินการในทำนองเดียวกันมากมายหลายโครงการ แต่ครั้งนี้กลับถือเป็นครั้งแรกของประเทศที่นำเรื่องกำไรขาดทุนมาพิจารณาและเรียกค่าเสียหายจากผู้นำรัฐบาลก่อนหน้า
นอกจากนี้ การเรียกค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว ยังเป็นเรื่องของนโยบายรัฐบาลไม่ใช่การทำละเมิดทั่วไป เช่น การทำให้ทรัพย์สินของราชการเสียหาย หรือการยักยอกเงินของทางราชการที่จะสามารถกำหนดค่าเสียหายและความรับผิดได้ชัดเจน การออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ไม่ว่าฉบับที่ 39/2558 หรือฉบับที่ 56/2559 โดยให้ความคุ้มครองเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการเรียกค่าเสียหายทางแพ่งให้ไม่ต้องรับผิด และให้อำนาจกรมบังคับคดีใช้มาตรการบังคับทางปกครอง แทนที่จะเป็นปลัดกระทรวงการคลังตามที่กฎหมายกำหนดไว้นั้น จะส่งผลให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ไม่ได้คำนึงถึงความถูกต้องเป็นธรรมเพราะถือว่ามีกฎหมายคุ้มครอง แต่กระทำเพื่อให้บรรลุเจตนาของผู้นำเท่านั้น จึงขอให้มีการทบทวนกระบวนการเรียกค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว และยกเลิกการใช้มาตรา 44 โดยไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
แสดงความคิดเห็น