Posted: 29 Sep 2017 01:09 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

ดัน ร่าง พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ…. คาด ต.ค.-พ.ย.จะมีผลบังคับใช้ เก็บค่าใช้น้ำด้านเกษตร เลี้ยงสัตว์เพื่อการพาณิชย์ไม่เกิน 50 สตางค์ต่อ ลบ.ม. ด้านการท่องเที่ยว 1-3 บ.ต่อลบ.ม. เกษตร/อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่า 3 บ.ต่อลบ.ม. ครม. เทงบกลาง 1.4 พันล้าน หนุนเกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 7 แสนไร่

29 ก.ย. 2560 รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ที่ผ่านมา ที่กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) วรศาสน์ อภัยพงษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ แถลงถึงการจัดทำ ร่าง พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ…. โดยกล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่ความเสี่ยงเรื่องทรัพยากรน้ำ รัฐบาลจึงต้องมีกลไกบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งร่าง พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำที่รัฐบาลผลักดันอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติในขณะนี้ หากมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายจะอยู่ภายใต้คณะกรรมการทรัพยากรนํ้าแห่งชาติ (กนช.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน

วรศาสน์กล่าวต่อว่า การจัดสรรน้ำเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอ ซึ่งระบบการจัดสรรน้ำจะสร้างสิทธิในการเข้าถึงน้ำสาธารณะที่หมายถึงแม่น้ำ ลำคลอง บึง แหล่งน้ำใต้ดิน ทะเลสาบ และแหล่งน้ำตามธรรมชาติอื่นๆ ทั้งที่รัฐจัดสร้างหรือพัฒนาขึ้น เพื่อให้ใช้ประโยชน์ร่วมกันอย่างเป็นธรรม โดยกฎหมายได้กำหนดประเภทการใช้น้ำไว้ 3 ประเภทคือ ประเภทที่ 1 ใช้นํ้าเพื่อการดำรงชีพ ไม่ต้องเสียค่าใช้นํ้า ประเภทที่ 2 ใช้นํ้าด้านการเกษตร เลี้ยงสัตว์เพื่อการพาณิชย์ เก็บค่าน้ำไม่เกิน 50 สตางค์ต่อ ลบ.ม. ด้านการท่องเที่ยว โรงแรม สถานที่พักผ่อน ร้านอาหาร เก็บค่าน้ำ 1-3 บาทต่อลบ.ม. และธุรกิจสนามกอล์ฟ การผลิตพลังงานไฟฟ้า การประปาสัมปทาน เก็บค่าน้ำไม่เกิน 3 บาทต่อลบ.ม. และประเภทที่ 3 สำหรับภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ การผลิตพลังงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ และกิจการอื่นๆ ที่ใช้น้ำในปริมาณมากตามมติ ของกนช. เก็บค่าน้ำไม่ต่ำกว่า 3 บาทต่อลบ.ม.

“คาดว่าในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย.จะมีผลบังคับใช้กฎหมายร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว จากนั้นภายใน 180 วัน จะออกกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้อง กับพ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ โดยจะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนทั่วประเทศอีกครั้ง โดยเฉพาะเรื่องอัตราการเก็บค่าน้ำ ก่อนจะออกเป็นกฎกระทรวง” อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าว
ครม. เทงบกลาง 1.4 พันล้าน หนุนเกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 7 แสนไร่

ขณะที่เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ที่ผ่านมาที่ทำเนียบรัฐบาล ณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำตัวรองนายกรัฐมนตรี เศรษฐกิจ แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบงบกลาง ฯ ปี 2560 จำนวน 1,421 ล้านบาท ดำเนินโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูแล้งหลังนา ปี 2560/61 ภายใต้มาตรการรักษาเสถียรภาพสินค้าเกษตรและรายได้เกษตรกร : ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ในพื้นที่ 31 จังหวัด รวม 7 เเสนไร่ เกษตรกร 47,000 ราย


โดยคุณสมบัติเกษตรกรเข้าร่วมโครงการต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตร รายละไม่เกิน 15 ไร่ รัฐสนับสนุนค่าใช้จ่ายวัสดุการเกษตรในการเรียนรู้การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูแล้งหลังนาแก่เกษตรกรที่ผ่านการตรวจสอบแล้วผ่าน ธ.ก.ส.ไร่ละ 2,000 บาท ระยะเวลาดำเนินการ กรกฎาคม 2560 – มิถุนายน 2561 จุดประสงค์โครงการเพื่อเพิ่มความต้องการ เนื่องจากปัจจุบันผลิตได้เพียงปีละ 4-5 ล้านตัน ในขณะที่ความต้องการอยู่ที่ 6-8 ล้านตันต่อปี นอกจากนี้ยังช่วยลดพื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ไม่ถูกต้องและลดรอบการปลูกข้าวรอบที่ 2

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ และข่าวสดออนไลน์

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.