Atukkit Sawangsuk

ว่าถึงอุดมการณ์ประชาธิปไตยกับอนุรักษ์นิยม ขวาจัด ซ้ายจัด (เดี๋ยวค่อยพูดเรื่องสังฆกรรมกับรัฐประหาร)

ทำไมพวกขวาจัด ไม่เอาประชาธิปไตย จึงพร้อมจะทำให้เกิด failed stated ก็เพราะอุดมคติชั่วดีมีศีลธรรม การเคารพเทิดทูน ฯลฯ ทำให้พวกเขาไม่แยแสสนใจว่าใครจะเป็นจะตาย ใครจะเดือดร้อนแค่ไหน ต้องปกปักรักษาความเชื่อของตนไว้

ทัศนคติแบบนี้ในยุคกลาง ยิ่งหนักกว่า เคยดูหนังยคนโปเลียนไหมครับ สงครามยุโรปเดินแถวถือปืนเข้าประจัญหน้ากัน ไอ้พวกแถวหน้านี่ตายเกลี้ยง ล้มทีละแถวๆ เพื่อชาติศาสนา เชื่อว่าตายไปจะได้พบพระเจ้า


ส่วนฝ่ายซ้าย แม้ไม่เชื่อชาตินี้ชาติหน้า แต่ก็ปลุกใจด้วยอุดมคติว่า เบื้องหน้าคือสังคมสมบูรณ์แบบ คุ้มค่าที่จะตายเพื่อ

ขณะที่ทัศนะประชาธิปไตยไม่ได้ยึดถือยึดมั่น แค่มองว่าสังคมจะต้องขับเคลื่อนไปตามวิถี ชั่วๆ ดีๆ เป็นวิทยาศาสตร์สังคม ขอเพียงประชาชนได้กำหนด หากจะมีการต่อสู้พลีเลือดเนื้อก็เมื่อถูกละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จนไม่อาจมีชีวิตอย่างอัปยศ

ฉะนั้นฝ่ายประชาธิปไตยจึงไม่สามารถมีทัศนะแบบเอาเป็นเอาตาย ยอมให้ทุกสิ่งทุกอย่างแหลกราญ เพื่อให้ตัวเองชนะ มันขัดกับอุดมคติ ความเป็นมนุษย์ ที่เรามี

ฉะนั้นเมื่อถามว่าเราอยากเห็น failed state ใต้อุ้งตีนรัฐประหารหรือไม่ อยากเห็นสิ และเชื่อว่ามันจะเป็นเช่นนั้นแม้ต้องใช้เวลา แต่จะเกิดขึ้นเพราะความวิบัติกัดกร่อนด้วยตัวมันเอง เราไม่สามารถที่จะจงใจทำให้เกิดความวิบัติฉิบหาย ทำได้แค่ไม่ร่วมมือ ไม่สังฆกรรม เท่าที่จะทำได้ตามสถานะของแต่ละบุคคล

ข้อนี้บางคนอาจมองเป็นความอ่อนแอของอุดมการณ์ประชาธิปไตย เพราะมันทำให้เผด็จการสืบทอดอำนาจได้อย่างด้านๆ บีบคั้นสังคมไม่มีทางเลือกจำต้องร่วมมือ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีการต่อต้านแบบ 3 จังหวัดภาคใต้ แถมสังคมไทยเกินครึ่งก็เป็นพวกวัฒนธรรมอ่อนละมุนหยวนยอมไร้หลักการ

แต่เพราะอย่างนี้่มันจึงเป็นอุดมการณ์ประชาธิปไตย ไม่สามารถเอาชนะความรุนแรงด้วยความรุนแรง ความสุดโต่งบ้าคลั่งด้วยการล้มล้าง แต่พวกเขาจะพยายามทำลายทุกอย่างจนทำลายตัวเอง

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.