Sopiwan Maneerat
โจรปล้นธนาคารที่แอนน์อาร์เบอร์ รัฐมิชิแกน โจรตะโกนคำแรกเมื่อชักปืนออกมาว่า !!!!!!
"ทุกคนอย่าขยับ เงินเป็นของรัฐ แต่ชีวิตเป็นของคุณ"
ทุกคนนอนอย่างสงบราบเรียบกับพื้นลืมตายโดยไม่โวยวาย ไม่มีใครเสี่ยงชีวิตของตัวเองเพื่อปกป้องเงินของรัฐ
พวกเราเรียกสิ่งนี้ว่า "เทคนิคการเปลี่ยนแนวคิด" บิดเบือนนิดเดียวความคิดเราก็เปลี่ยนไปไกลแล้ว
ผู้หญิงคนนึงนอนอยู่บนโต๊ะและกำลังจะกรี๊ด ทันใดนั้นโจรตะโกนใส่ผู้หญิงว่า "เรามีวัฒนธรรม ผมมาปล้นแบ๊งค์ ไม่ได้มาข่มขืนคุณ!!"
เราเรียกสิ่งนี้ว่า (professional การเป็นมืออาชีพ) ตั้งมั่นในเป้าหมายอย่างเดียวไม่ว่อกแว่ก
เมื่อโจรกลับถึงฐานลับ โจรวัยรุ่นที่จบการศึกษาระดับปริญญาโท MBA บอกกับรุ่นพี่โจรว่า "รุ่นพี่ เรามานับเงินกันว่าได้มาเท่าไหร่" แต่รุ่นพี่โจรที่จบเพียงชั้นประถมกล่าวว่า "แกนี่มันโง่มากเลย เงินตั้งเยอะตั้งแนะ จะนับยังไง คืนนี้ทีวีจะบอกเองแหล่ะว่าเราได้มาเท่าไหร่!!"เราเรียกสิ่งนี้ว่า
(experience ประสบการณ์)
ซึ่งในปัจจุบันประสบการณ์มีค่ามากกว่าใบปริญญามากมายนัก
เมื่อโจรกลับไปแล้ว ผู้จัดการธนาคารสั่งให้รองผู้จัดการโทรหาตำรวจที่เบอร์ 911 แต่รองผู้จัดการธนาคารกลับค้านว่า "เดี๋ยวๆๆ ใจเย็นๆ โจรเอาเงินไปเท่าไหร่ เรามานับกันก่อน แล้วบอกตำรวจว่าโจรเอาไปมากกว่านั้นอีก 5 เท่า"เราเรียกสิ่งนี้่ว่า
"ว่ายตามน้ำ" หรือการเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส
ผู้จัดการกล่าวว่า "นั่นสิ จริงๆแล้วถ้ามีโจรมาปล้นธนาคารทุกเดือนก็ดีสินะ"เราเรียกสิ่งนี้ว่า "การฆ่าเวลาเล่นๆ" ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าความสุขของเราอีกแล้ว
วันถัดมา ทีวีทุกช่องออกข่าวกันว่ามีโจรปล้นธนาคาร 100 ล้าน แต่ว่าโจรที่ปล้นไปนับแล้วนับอีก ไม่ว่าจะนับกี่รอบ ก็นับได้แค่ 20 ล้านเท่านั้น โจรโกรธมากแล้วพูดว่า "เราเสี่ยงตายและปล้นธนาคารออกมาได้แค่ 20 ล้าน แต่เจ้าผู้จัดการธนาคารแค่มันหัวไวนิดเดียว มันทำเงินได้ถึง 80 ล้านเลย การศึกษามีดีอย่างนี้นี่เอง"เราเรียกสิ่งนี้ว่า Knowledge
(ความรู้มีค่ามากกว่าทองคำ)
ผู้จัดการธนาคารยิ้มร่าอย่างแรง เพราะว่าอยู่ดีๆเขาก็มีเงินเพิ่มขึ้นถึง 80 ล้าน โดยที่เป็นความผิดของโจรปล้นธนาคาร
เราเรียกสิ่งนี้ว่า
"stratagem เล่ห์กลโกง"
Tyler durden
แสดงความคิดเห็น