Posted: 26 Oct 2018 08:28 PM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Sat, 2018-10-27 10:28



ผู้พิพากษาไทยลงมติครั้งประวัติศาสตร์ 3,165 จากทั้งหมด 4,635 เสียง ให้ถอดถอน ‘ชำนาญ รวิวรรณพงษ์’ พ้นตำแหน่งกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ หลังถูกกล่าวหาว่าแทรกแซงการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้นในศาล จ.ฉะเชิงเทรา

เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2561 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ข่าวสด รายงานว่าที่สำนักงานศาลยุติธรรมชั้น 12 อาคารศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายวรวิทย์ ทองมาลา เลขานุการศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เป็นประธานการตรวจนับคะแนนการ ถอดถอน นายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ ประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา ออกจากตำแหน่งกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ (ก.ต.) หลังถูกกล่าวหาว่าแทรกแซงการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้นในศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งผลการนับคะแนนปรากฎว่า เห็นชอบให้ถอดถอน 3,165 คะแนน ไม่เห็นชอบให้ถอดถอน 193 คะแนน บัตรเสีย 190 บัตร

นายสุริยัณห์ หงษ์วิลัย โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่าสำนักงานศาลยุติธรรม ได้ตรวจนับคะแนนจากผู้พิพากษาทั่วประเทศที่ส่งบัตรคืนกลับมาเพื่อร่วมยื่น ถอดถอน ทั้งสิ้น 3,548 คนจากผู้พิพากษาทั้งหมด 4,635 คน หากผลการนับคะแนน เกิน 2,318 คนหรือกึ่งหนึ่งของผู้พิพากษาทั่วประเทศ จะมีผลทำให้นายชำนาญ ต้องพ้นจากตำแหน่ง ก.ต.ทันที โดยจะมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่าจํานวนคะแนนเสียงที่ลงมติเห็นชอบให้ ถอดถอน ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของข้าราชการตุลาการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ดังนั้น นายชํานาญ ต้องพ้นจากตําแหน่งก.ต. ตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 มาตรา 42 นับตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค. 2561 เป็นต้นไป อันเป็นวันที่นับคะแนนเสร็จสิ้น ตามระเบียบคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมว่าด้วยการเข้าชื่อและการลงมติ เพื่อถอดถอนกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ พ.ศ. 2544 ข้อ 17

นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล อธิบดีผู้พิพากษาภาค 2 ตัวเเทนผู้เข้าชื่อร้อง ถอดถอน ก.ต. กล่าวว่าเป็นชัยชนะของศาลยุติธรรมที่มุ่งปกป้องความเป็นอิสระของศาล ไม่ใช่ชัยชนะของศาลจังหวัดฉะเชิงเทราหรือผู้เข้าร่วมถอดถอน

"ครั้งนี้ถือเป็นครั้งเเรก การลงคะเเนนเสียง 3,165 คะเเนนซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่ของผู้พิพากษา ทำให้เห็นว่าศาลยุติธรรมให้ความสำคัญกับหลักความเป็นอิสระ ประชาชนจะได้มั่นใจว่าจะได้รับการพิจารณาที่เที่ยงธรรม ปราศจากการเเทรกเเซง เเม้จะเป็นผู้พิพากษาด้วยกันเองก็ต้องถูกลงโทษ" นายสืบพงษ์ระบุ

นายสืบพงษ์ กล่าวถึงกรณีโดนนายชำนาญ เเจ้งความเอาผิดว่าเข้าใจว่าขั้นตอนอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งยังไม่มีการทำหนังสือเชิญหรือออกหมายเรียกมายังตน ซึ่งตนไม่หวั่นวิตกเเละเชื่อมั่นว่าเราทำในสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายเเละระเบียบ

[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.