ที่ประชุม ทปอ. เห็นชอบเลิกระบบแอดมิชชั่น ปี 2561 ใช้ข้อสอบกลางร่วมกันทุกมหาวิทยาลัย
ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) จัดประชุมวิสามัญวานนี้ พิจารณาเรื่องระบบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา โดยเห็นชอบกับแนวทางของกระทรวงศึกษาธิการเลิกระบบแอดมิชชั่นเดิม และเริ่มใช้ข้อสอบกลางร่วมกันทุกมหาวิทยาลัยในปี 2561 หวังแก้ปัญหาวิ่งรอกสอบและลดค่าใช้จ่ายของนักเรียน
ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะประธาน ทปอ. กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมเห็นด้วยกับแนวคิดของ รมว.ศธ. คือ การคัดเลือกนักศึกษาต้องเป็นไปตามแนวทางให้เด็กและมหาวิทยาลัยเลือกได้ ต้องไม่วิ่งรอกสอบ และลดค่าใช้จ่าย ไม่เป็นภาระแก่ผู้ปกครอง รวมถึงเห็นด้วยกับ รมว.ศธ. ที่จะให้เด็กอยู่ในชั้นเรียนตลอดจนจบการศึกษา ดังนั้น การรับนิสิตนักศึกษาในปีการศึกษา 2561 จะปรับระบบการรับให้เหลือเพียง 3 ระบบ คือ 1. ระบบโควตา ที่มหาวิทยาลัยสามารถรับได้ทั้งปี แต่ต้องไม่มีการสอบ เช่น โควตานักกีฬา โควตาเด็กโอลิมปิกวิชาการ โดยพิจารณาจากความสามารถและการเรียนดี 2. ระบบเคลียริงเฮาส์ปีละ 2 ครั้ง โดยใช้ข้อสอบกลางและจัดสอบเพียงครั้งเดียว ซึ่งเมื่อผ่านเคลียริงเฮาส์แล้ว จะไม่สามารถไปสมัครสอบที่อื่นได้อีก สำหรับการจัดสอบเพียงครั้งเดียวจะพยายามให้จัดสอบดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน คือ มี.ค.- เม.ย. และ 3. ระบบรับตรงที่มหาวิทยาลัยดำเนินการได้เอง เพื่อให้ได้เด็กตามที่ต้องการ แต่ดำเนินการได้หลังผ่านการรับระบบเคลียริงเฮาส์แล้ว ทั้งนี้ อยากจะย้ำว่าการที่มหาวิทยาลัยเปิดรับตรงนั้นไม่ใช่เพื่อหารายได้ แต่เพื่อคัดเด็กให้ตรงกับความต้องการของมหาวิทยาลัย
ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) จัดประชุมวิสามัญวานนี้ พิจารณาเรื่องระบบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา โดยเห็นชอบกับแนวทางของกระทรวงศึกษาธิการเลิกระบบแอดมิชชั่นเดิม และเริ่มใช้ข้อสอบกลางร่วมกันทุกมหาวิทยาลัยในปี 2561 หวังแก้ปัญหาวิ่งรอกสอบและลดค่าใช้จ่ายของนักเรียน
ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะประธาน ทปอ. กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมเห็นด้วยกับแนวคิดของ รมว.ศธ. คือ การคัดเลือกนักศึกษาต้องเป็นไปตามแนวทางให้เด็กและมหาวิทยาลัยเลือกได้ ต้องไม่วิ่งรอกสอบ และลดค่าใช้จ่าย ไม่เป็นภาระแก่ผู้ปกครอง รวมถึงเห็นด้วยกับ รมว.ศธ. ที่จะให้เด็กอยู่ในชั้นเรียนตลอดจนจบการศึกษา ดังนั้น การรับนิสิตนักศึกษาในปีการศึกษา 2561 จะปรับระบบการรับให้เหลือเพียง 3 ระบบ คือ 1. ระบบโควตา ที่มหาวิทยาลัยสามารถรับได้ทั้งปี แต่ต้องไม่มีการสอบ เช่น โควตานักกีฬา โควตาเด็กโอลิมปิกวิชาการ โดยพิจารณาจากความสามารถและการเรียนดี 2. ระบบเคลียริงเฮาส์ปีละ 2 ครั้ง โดยใช้ข้อสอบกลางและจัดสอบเพียงครั้งเดียว ซึ่งเมื่อผ่านเคลียริงเฮาส์แล้ว จะไม่สามารถไปสมัครสอบที่อื่นได้อีก สำหรับการจัดสอบเพียงครั้งเดียวจะพยายามให้จัดสอบดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน คือ มี.ค.- เม.ย. และ 3. ระบบรับตรงที่มหาวิทยาลัยดำเนินการได้เอง เพื่อให้ได้เด็กตามที่ต้องการ แต่ดำเนินการได้หลังผ่านการรับระบบเคลียริงเฮาส์แล้ว ทั้งนี้ อยากจะย้ำว่าการที่มหาวิทยาลัยเปิดรับตรงนั้นไม่ใช่เพื่อหารายได้ แต่เพื่อคัดเด็กให้ตรงกับความต้องการของมหาวิทยาลัย
“สำหรับหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อ จะให้มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งไปกำหนดเอง แต่การปรับระบบใหม่นี้จะทำให้ไม่มีการคัดเลือกนักศึกษาด้วยระบแอดมิชชั่นอีกต่อไป เนื่องจากไม่มีเวลา นอกจากนี้ ทปอ. จะรับสมัครผ่านออนไลน์ ลดค่าใช่จ่าย และจะพัฒนาข้อสอบกลางให้มีความแม่นยำมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ทปอ. จะนำข้อสรุปดังกล่าวเสนอ รมว.ศธ. ในวันที่ 5 ก.ย. นี้ ซึ่งเป็นการประชุมร่วมกับกลุ่ม ทปอ. มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) และ ทปอ. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ด้วย ทั้งนี้ อยากให้มหาวิทยาลัยทุกแห่งเข้าร่วม เพื่อจะได้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน” ประธาน ทปอ. กล่าว
แสดงความคิดเห็น