Atukkit Sawangsuk

เจาะสัญญารับเหมางาน‘ทัพภาค 3’ หจก.‘ปฐมพล จันทร์โอชา’ชนะคู่แข่ง 1,900 บ.
http://www.isranews.org/…/inve…/item/50221-report_63521.html

ไม่ใช่แค่นั้นนะ อิศรายังบอกว่า ในผู้ผ่านคุณสมบัติเข้าเสนอราคา 4 ราย อีก 3 รายล้วนเป็นผู้รับเหมาเจ้าเก่า รับงานกองทัพมาเกือบ 20 ปี โดย 2 รายมีที่ตั้งอยู่พิษณุโลก (จะไม่รู้เชียวเรอะว่าไผเป็นไผ)

ให้สังเกตว่ามีผู้ขอเอกสาร (ซื้อซอง) 14 ราย แต่ผ่านคุณสมบัติมายื่นซองเพียง 4 ราย

นี่เป็นประเด็นที่มีความเห็นต่างกันในคดีที่ดินรัชดา ซึ่งตุลาการข้างน้อยเห็นว่าการ "ประมูลขายทอดตลาด" ไม่เข้าข่ายมาตรา 100 กฎหมาย ปปช. เพราะไม่เหมือนการจัดซื้อจัดจ้างทั่วไป ซึ่งหน่วยงานรัฐมีอำนาจให้คุณให้โทษ เช่นกำหนดสเปค ตั้งเงื่อนไขเรื่องคุณสมบัติ แต่ขายทอดตลาดคือวางโฉนดลงไปเลย ไม่มีอำนาจวินิจฉัยใดๆ ทั้งสิ้น ใครให้เงินมากกว่าก็ได้ไป

คือตุลาการเสียงข้างน้อย และ อ.วรเจตน์ (ซึ่งพูดไว้ตั้งแต่ปี 47 ตอนวิพากษ์ทักษิณเรื่องหวยลิเวอร์พูล) เห็นว่าความผิดมาตรา 100 จะเอาผิดเพียงแค่เป็นคู่สัญญากับรัฐไม่ได้ อย่างน้อยต้องเป็นสัญญาที่เจ้าหน้าที่รัฐมีอำนาจใช้ดุลพินิจ

ที่จริง อ.วรเจตน์มองตั้งแต่ต้นว่า มาตรา 100 มีปัญหาเพราะมันเป็นการเอาผิดอาญาคนแบบคลุมเครือไม่ชัดเจน อ.วรเจตน์จึงเห็นว่าต้องพิสูจน์ทุจริตไม่ใช่ทำสัญญาก็ผิดอาญาเลย

อ๊ะอ๊ะ นี่ไม่ใช่มาเถียงแทนทักกี้นะครับ ผมกำลังพูดถึงการขยายความมาตรานี้เป็นความผิด 4 ชั่วโคตร ที่ต่อไปทั้งนักการเมืองทั้งข้าราชการจะโดนหมด โดนกว้างกว่าเรื่องเป็นคู่สัญญากับรัฐด้วย โดน 4 ชั่่วโคตรคือ พ่อแม่ เมีย พี่น้อง ลูก-คู่สมรสของลูก ข้าราชการที่มีญาติทำธุรกิจส่วนตัวจะมีปัญหามาก ยิ่งมีตำแหน่งใหญ่ยิ่งไม่รู้จะหนีไปไหน ถ้าเขียนกฎหมายแบบกว้าง ตีความแบบกว้าง ไม่ต้องพิสูจน์ทุจริตก็ติดคุกได้ กฎหมาย 4 ชั่วโคตรจะทำให้หวาดผวากันไปหมด

แต่อย่างกรณีลูกชายปรีชานี่ ต่อให้เขียนกฎหมายยังไงก็ไม่ผิด เพราะเขาประมูลหลังจากพ่อพ้นตำแหน่งแม่ทัพ 3 ไปแล้ว (เว้นแต่จะเพิ่มเป็นกฎหมาย 5 ชั่วโคตร คือห้ามหลานเป็นคู่สัญญากับรัฐระหว่างที่ลุงเป็นนายกฯ)

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.