กสม.แนะตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างรัฐและชาวบ้าน เจรจารักษาชุมชนป้อมมหากาฬ
รองผู้ว่าฯ กทม. นำกำลังเจ้าหน้าที่รื้อถอนบ้านเก่าในชุมชนป้อมมหากาฬ ซึ่งผู้มีชื่อเป็นเจ้าของบ้านยินยอมให้รื้อถอน แต่คนในชุมชนอีกเป็นจำนวนมากรวมตัวคัดค้านและเรียกร้องให้อนุรักษ์ชุมชนในฐานะพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ส่วนกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและกลุ่มนักวิชาการที่ร่วมสังเกตการณ์ เสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการพหุพาคีระหว่างรัฐและตัวแทนชุมชน เพื่อเจรจาหาทางออกร่วมกันสัปดาห์หน้า
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตพระนคร สำนักการโยธา สำนักเทศกิจ และสำนักสิ่งแวดล้อม นำกำลังเข้ารื้อถอนบ้านในชุมชนป้อมมหากาฬ วันนี้ (3 ก.ย.) หลังครบกำหนดที่ กทม.แจ้งแก่คนในชุมชนว่าจะเริ่มรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง เพื่อเปิดทางให้ กทม.นำที่ดินไปพัฒนาเพื่อสาธารณะประโยชน์ แต่ผู้อาศัยในชุมชนได้นำสิ่งกีดขวางมาปิดกั้นทางเข้าในช่วงเช้า พร้อมปักหลักต่อต้านการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในชุมชน แต่มีการไกล่เกลี่ยจนนำไปสู่การจัดวงพูดคุยกันระหว่าง พล.ต.อ.อัศวิน และกลุ่มผู้คัดค้าน
รองผู้ว่าฯ กทม. นำกำลังเจ้าหน้าที่รื้อถอนบ้านเก่าในชุมชนป้อมมหากาฬ ซึ่งผู้มีชื่อเป็นเจ้าของบ้านยินยอมให้รื้อถอน แต่คนในชุมชนอีกเป็นจำนวนมากรวมตัวคัดค้านและเรียกร้องให้อนุรักษ์ชุมชนในฐานะพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ส่วนกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและกลุ่มนักวิชาการที่ร่วมสังเกตการณ์ เสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการพหุพาคีระหว่างรัฐและตัวแทนชุมชน เพื่อเจรจาหาทางออกร่วมกันสัปดาห์หน้า
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตพระนคร สำนักการโยธา สำนักเทศกิจ และสำนักสิ่งแวดล้อม นำกำลังเข้ารื้อถอนบ้านในชุมชนป้อมมหากาฬ วันนี้ (3 ก.ย.) หลังครบกำหนดที่ กทม.แจ้งแก่คนในชุมชนว่าจะเริ่มรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง เพื่อเปิดทางให้ กทม.นำที่ดินไปพัฒนาเพื่อสาธารณะประโยชน์ แต่ผู้อาศัยในชุมชนได้นำสิ่งกีดขวางมาปิดกั้นทางเข้าในช่วงเช้า พร้อมปักหลักต่อต้านการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในชุมชน แต่มีการไกล่เกลี่ยจนนำไปสู่การจัดวงพูดคุยกันระหว่าง พล.ต.อ.อัศวิน และกลุ่มผู้คัดค้าน
ในระหว่างการพูดคุย ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ได้ชี้ให้เห็นความสำคัญของชุมชนในฐานะย่านเก่าแก่ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และหลายครอบครัวมีบุตรหลานกำลังศึกษาในละแวกใกล้เคียง ซึ่งจะได้รับผลกระทบโดยตรงหากต้องย้ายออกจากชุมชน
ขณะที่ พล.ต.อ.อัศวิน ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะเข้ารื้อถอนเฉพาะบ้านที่ยินยอมให้ กทม.เข้ารื้อถอน และจะไม่ดำเนินการใด ๆ กับบ้านที่ผู้อยู่อาศัยปัจจุบันไม่ยินยอมให้รื้อถอน แต่กลุ่มผู้อยู่อาศัยในชุมชนต่อรองให้ กทม.ยกเลิกคำสั่งรื้อถอนบ้านไม้สักโบราณที่ไม่มีเจ้าของ เพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชน ทำให้บ้านที่จะถูกรื้อถอนเหลือเพียง 12 หลัง
ด้านนางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) พร้อมด้วยกลุ่มนักวิชาการที่เข้าร่วมสังเกตการณ์ในชุมชน เสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการพหุภาคีระหว่างหน่วยงานรัฐและตัวแทนชุมชนป้อมมหากาฬ เพื่อเจรจาหาทางออกร่วมกันอย่างเป็นทางการอีกครั้งในสัปดาห์หน้า พร้อมเสนอให้ตรวจสอบความถูกต้องของบ้านที่ยินยอมให้ กทม.เข้ารื้อถอน และในระหว่างนี้ให้ กทม.ระงับการพิจารณาไล่รื้อถอนบ้านอื่น ๆ เพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวแห่งชาติรายงานอ้างอิงนายศักดิ์ชัย บุญมา ผู้อำนวยการกองจัดกรรมสิทธิ์กรุงเทพมหานคร ซึ่งระบุว่า กทม.ได้รื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างในชุมชนป้อมมหากาฬได้ทั้งหมด 7 หลังในช่วงบ่ายที่ผ่านมา และวันพรุ่งนี้ (4 ก.ย.) จะรื้อย้ายให้แล้วเสร็จเกิน 10 หลัง ส่วนผู้ที่ย้ายออกจะได้รับเงินชดเชยเป็น 2 ส่วน คือ ค่าบ้านจำนวนหลักแสน และค่าสิทธิการเช่าประมาณ 5 หมื่นบาท แต่ละหลังจะได้รับเงินไม่เท่ากัน และ กทม.จะขนย้ายบ้านที่รื้อให้เสร็จภายใน 2 วัน
ขณะที่ พล.ต.อ.อัศวิน ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะเข้ารื้อถอนเฉพาะบ้านที่ยินยอมให้ กทม.เข้ารื้อถอน และจะไม่ดำเนินการใด ๆ กับบ้านที่ผู้อยู่อาศัยปัจจุบันไม่ยินยอมให้รื้อถอน แต่กลุ่มผู้อยู่อาศัยในชุมชนต่อรองให้ กทม.ยกเลิกคำสั่งรื้อถอนบ้านไม้สักโบราณที่ไม่มีเจ้าของ เพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชน ทำให้บ้านที่จะถูกรื้อถอนเหลือเพียง 12 หลัง
ด้านนางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) พร้อมด้วยกลุ่มนักวิชาการที่เข้าร่วมสังเกตการณ์ในชุมชน เสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการพหุภาคีระหว่างหน่วยงานรัฐและตัวแทนชุมชนป้อมมหากาฬ เพื่อเจรจาหาทางออกร่วมกันอย่างเป็นทางการอีกครั้งในสัปดาห์หน้า พร้อมเสนอให้ตรวจสอบความถูกต้องของบ้านที่ยินยอมให้ กทม.เข้ารื้อถอน และในระหว่างนี้ให้ กทม.ระงับการพิจารณาไล่รื้อถอนบ้านอื่น ๆ เพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวแห่งชาติรายงานอ้างอิงนายศักดิ์ชัย บุญมา ผู้อำนวยการกองจัดกรรมสิทธิ์กรุงเทพมหานคร ซึ่งระบุว่า กทม.ได้รื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างในชุมชนป้อมมหากาฬได้ทั้งหมด 7 หลังในช่วงบ่ายที่ผ่านมา และวันพรุ่งนี้ (4 ก.ย.) จะรื้อย้ายให้แล้วเสร็จเกิน 10 หลัง ส่วนผู้ที่ย้ายออกจะได้รับเงินชดเชยเป็น 2 ส่วน คือ ค่าบ้านจำนวนหลักแสน และค่าสิทธิการเช่าประมาณ 5 หมื่นบาท แต่ละหลังจะได้รับเงินไม่เท่ากัน และ กทม.จะขนย้ายบ้านที่รื้อให้เสร็จภายใน 2 วัน
แสดงความคิดเห็น