บลูมเบิร์กส่องรัฐบาลทหารหวนหาประชานิยม จำนำยุ้งฉาง-แจกเงินคนจน หลังเคยประณามรบ.ยิ่งลักษณ์พร้อมทวงเงินชดใช้จำนำข้าว ชี้สองฝ่ายแข่งหาเสียงชาวนา อดีตนายกฯซื้อข้าว ทหารเกี่ยวข้าว

ในวันพุธที่ 23 พฤศจิกายน สำนักข่าวบลูมเบิร์กนำเสนอรายงานระบุว่า รัฐบาลทหารของไทยกลับลำหลังเคยประณามมาตรการทางเศรษฐกิจของรัฐบาลพลเรือนว่าเป็นประชานิยม โดยหันมาใช้วิธีการในทำนองเดียวกัน อย่างไรก็ดี มาตรการของรัฐบาลทหารออกมาช้าเกินการณ์สำหรับการช่วยเหลือชาวนาที่ทุกข์ยากเพราะราคาข้าวตกต่ำ


รายงานระบุว่า ราคาข้าวหอมมะลิในเวลานี้อยู่ที่ตันละประมาณ 8,000 บาท นับว่าต่ำกว่าราคารับจำนำเมื่อสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถึงราว 60 % ชาวนาวัย 56 ปีคนหนึ่งที่จังหวัดอุบลราชธานีบอกกับผู้สื่อข่าวบลูมเบิร์กว่า ราคานี้ชาวนาอยู่ไม่ได้ ทุกวันนี้รู้สึกสิ้นหวัง ถ้าอะไรๆยังไม่ดีขึ้น อาจต้องขายที่ทำกินเอาเงินใช้หนี้

บลูมเบิร์กบอกว่า ล่าสุด รัฐบาลทหารที่โค่นรัฐบาลยิ่งลักษณ์หันมาช่วยชาวนาโดยใช้มาตรการสนับสนุนด้านราคาเช่นเดียวกับการรับจำนำข้าว ซึ่งเป็นมาตรการที่ทหารผู้ยึดอำนาจเคยประณาม ท่ามกลางความพยายามของเหล่านายพลที่จะโน้มน้าวให้ฐานสียงของทักษิณและยิ่งลักษณ์เลิกสนับสนุนกลุ่มการเมืองชินวัตรซึ่งชนะเลือกตั้งทั้งห้าครั้งนับแต่ปี 2544 เป็นต้นมา

ราคาข้าวเป็นปัจจัยหนุนส่งข้อใหญ่สำหรับชัยชนะของกลุ่มชินวัตร แม้ภาคการเกษตรมีสัดส่วนในเศรษฐกิจไทยแค่ 8 % แต่การผลิตข้าวสร้างงานให้ประชาชน 16 ล้านคน หรือราว 1 ใน 4 ของประชากร เมื่อราคาข้าวเปลือกตกต่ำ เศรษฐกิจภาพรวมจะกระทบ กำลังซื้อจะถดถอยตั้งแต่อสังหาริมทรัพย์ มอเตอร์ไซค์ ไปจนถึงเครื่องอุปโภคบริโภค

รัฐบาลยิ่งลักษณ์ช่วยชาวนาด้วยโครงการรับจำนำข้าว บางครั้งจ่ายเงินสูงกว่าราคาตลาด 50 % หัวหน้ารัฐบาลทหาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บอกว่า นโยบายดังกล่าวไม่มีความยั่งยืน มีการเอาผิดทางอาญา พร้อมกับออกคำสั่งให้อดีตนายกรัฐมนตรีจ่ายเงินชดใช้จำนวน 35,000 ล้านบาท ทั้งๆที่ยังไม่มีตัวเลขว่าโครงการดังกล่าวขาดทุนเป็นเงินเท่าไร

บลูมเบิร์กรายงานว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน พล.อ.ประยุทธ์กลับหลังหัน ประกาศแผนใช้เงิน 7,800 ล้านบาทอุดหนุนราคาข้าวในโครงการที่เรียกกันว่า จำนำยุ้งฉาง และเมื่อวันอังคารที่ 22 พ.ย. รัฐบาลทหารประกาศที่จะแจกเงินสดแก่ผู้มีรายได้น้อยราว 5.4 ล้านคน คนละ 3,000 บาท

ชาวนาในจังหวัดอุบลราชธานีพูดถึงมาตราการจำนำยุ้งฉางว่า มีดีกว่าไม่มี แต่อันที่จริงเป็นมาตรการที่น้อยเกินไป สายเกินการณ์ มาตรการนี้ยุ่งยาก ต้องใช้เวลานานกว่าจะได้เข้าโครงการ และยังต้องแบกรับความเสี่ยงเก็บข้าวเปลือกไว้เองอีก

นายกังวาน บุญพระชม ชาวนาวัย 40 บอกว่า ตนตัดสินใจขายข้าวให้โรงสี แทนการเก็บข้าวเอาไว้เข้าโครงการของรัฐบาล “ราคานี้ขายได้ไม่พอใช้หนี้ เพื่อนชาวนาต่างปรับทุกข์เรื่องราคาข้าวตกต่ำ พวกเราอยากได้ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ”

รายงานบอกว่า ภาวะราคาข้าวดิ่งเหวทำให้เกิดศึกชิงความนิยมระหว่างพวกนายพลกับนักการเมืองซึ่งถูกห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง อดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ออกไปรับซื้อข้าวจากชาวนาภาคอีสาน แล้วนำมาขายตามห้างสรรพสินค้า ในขณะที่กองทัพส่งกำลังพลออกไปช่วยชาวนาเกี่ยวข้าว พร้อมช่างภาพและป้ายโฆษณา.



Source: Bloomberg

Photo: AP

source :- http://news.voicetv.co.th/thailand/434799.html

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.