นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน และในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ เป็นห่วงไฟฟ้าภาคใต้ที่มีการใช้เติบโตขึ้นแต่โรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ล่าสุดยังต้องเลื่อนเข้าระบบออกไปจากแผนเดิมอีกเป็นหลังปี 65 ล่าสุดกฟผ. ยังแจ้งว่า สายส่งไฟฟ้าที่จะก่อสร้างไปยังพื้นที่ภาคใต้ (จอมบึง-บางสะพาน-สุราษฎร์ธานี-ภูเก็ต) ระยะทาง 800 กม. ตามแผนจะก่อสร้างปี 62 ต้องเลื่อนออกไปอีก 1 ปี เนื่องจากประสบปัญหาการเวนคืนที่ดินล่าช้า
“ขณะนี้เราคงต้องขยับเวลาให้กับโรงไฟฟ้ากระบี่ออกไปเพื่อที่จะให้กฟผ. กำหนดแนวทางสอบถามความเห็นว่าสรุปแล้วประชาชนในพื้นที่ต้องการหรือไม่ ยอมรับว่าตอนนี้  ตันทุกจุดทั้งเลื่อนสายส่งอีก  ขณะที่พลังงานทดแทนเราก็มุ่งเน้นเต็มที่แต่ต้องยอมรับไฟฟ้าที่ผลิตได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในภาคใต้”
ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ผ่านมาไม่ได้ระบุว่าจะระงับโครงการโรงไฟฟ้ากระบี่แต่อย่างใดแต่ต้องการให้ไปสอบถามคนในพื้นที่จึงมอบให้กฟผ.ลงพื้นที่สอบถามประชนชนและทำความเข้าใจเพราะความต้องการไฟฟ้าภาคใต้เติบโตต่อเนื่องโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวขณะที่กระทรวงพลังงานพร้อมสนับสนุนพลังงานทดแทนอย่างเต็มที่โดยได้มอบให้มหาวิทยาสงขลา ม.เชียงใหม่ ม.ขอนแก่น และม.สุรนารีศึกษาพื้นที่แต่ละภาคในการทำพลังงานทดแทนแต่พลังงานทดแทนเหล่านี้ก็ยังไม่เพียงพอ ขณะที่ความเป็นห่วงเรื่องมลพิษยืนยันว่าไทยก็ใช้มาตรฐานโรงไฟฟ้าเช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่มีมาตรฐานสูง

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.