ใบตองแห้ง

วันพุธ บ่ายสาม คนทั้งประเทศมีความสุขกับการดูลุงตู่นำข้าราชการออกกำลังกาย (ในเวลาราชการ) ซึ่งกลายเป็นภาพน่ารักบนหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ

อ้าว อย่าเอ็ดไปนะครับ แม้แต่ฝ่ายคัดค้านยังหัวเราะคิกคัก เอาภาพลุงตู่โยนจานรับจาน ไปแซวสนุกสนานในโลกออนไลน์ เป็นผู้นำที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร ทำให้เบาสมองเป็นพักๆ ขนาดนักประชาธิปไตยไม้เบื่อไม้เมายังบอกว่า ถ้าไม่ใช่หัวหน้า คสช. เป็นมนุษย์ลุงข้างบ้านละก็ รักตายเลย

บุคลิกลุงตู่ใครว่าตกยุค ที่ไหนได้ กลายเป็นขุนไกรผสมโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ความนิยมนอกกฎเกณฑ์ เหนือเสียงวิจารณ์ ท่ามกลางการเมืองแตกแยก เกลียดชัง คนข้างหนึ่งเชียร์ไม่ลืมหูลืมตา คนอีกข้างไม่พอใจแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ คนตรงกลางๆ แม้อึดอัดบ้างก็จำยอม ไม่มีทางเลือก ชอบบ้างไม่ชอบบ้าง แต่ก็ไม่ชัง ดูไปดูมาก็ยังครึ้มๆ ดี

ประเทศนี้ก็เลยอยู่กันแบบนี้ เสียงเชียร์ดังกว่าเสียงวิจารณ์ ซึ่งถูกปิดกั้นทุกวิถีทาง คนตรงกลางๆ ก็เอาที่สบายใจ ทำมาหากินไป ตัวใครตัวมัน อย่าให้เราเดือดร้อนแล้วกัน

ฉะนั้น พอลุงตู่แปลงร่างเป็นซานต้าแจกตังค์ 1,500-3,000 พวกที่เคยวิจารณ์ประชานิยม เอาผลประโยชน์ฟาดหัวประชาชน ทำให้ไม่รู้จักพึ่งตนเอง ฯลฯ ก็หันมาแซ่ซ้องเป็นมาตรการชาญฉลาด ช่วยเหลือคนทุกข์คนยาก แล้วยังกระตุ้นเศรษฐกิจ ชาวบ้านรับปุ๊บ เข้าร้านสะดวกซื้อปั๊บ รับแสตมป์อีกต่างหาก ใครขืนวิพากษ์ ก็เท่ากับไม่เห็นใจคนจนสิครับ

แต่อ้าว ทีรัฐบาลขึ้นค่าแรง 5 บาท 10 บาท พอวิพากษ์ว่าไม่เห็นใจคนจน นักเศรษฐศาสตร์ก็งัดงานวิจัย ว่าเป็นความผิด “อีปู” ต่างหาก ขึ้นพรวดเดียว 300 บาท ธุรกิจพังพินาศ ทำให้ไม่ได้ขึ้นมา 4 ปี ขึ้นทีละ 5 บาท 10 บาทก็พอแล้ว ยังดีกว่าไม่มีงานทำ

แบบเดียวกับข้าวราคาตกต่ำ เพราะจำนำข้าวค้างสต๊อก นี่ถ้าไม่ใช่ลุงตู่จำนำยุ้งฉาง รวมพลังสามัคคี ภาครัฐ ภาคเอกชน คนชั้นกลางระดับบน คนมั่งมี คนดีๆ ช่วยซื้อข้าวชาวนา ราคาก็คงไม่กระเตื้องตันละเป็นพัน แถมยังพลิกวิกฤตเป็นโอกาส เปิดช่องทางชาวนาขายข้าวเองไม่ต้องพึ่งพ่อค้าคนกลาง

ถ้าเป็นรัฐบาลเลือกตั้งเรอะ ทำไม่ได้หรอก บอกให้ ช่วยซื้อ อาจมีบางคนเมิน อยากประชานิยมก็เชิญแก้ปัญหาเอง

ทางการเมืองก็เหมือนกัน ดราม่า เบส อรพิมพ์ โดนสังคมรุมกระหน่ำก็ช่างสิ แต่พอติติงไปถึง คสช. ถึง กอ.รมน. ก็กลายเป็นเบสโดนตัดต่อ ทำลายคนรักสถาบัน คลิปครูฝึกเฆี่ยน ถีบหัวทหาร ก็มีคนรักกองทัพเต็มบ้านเต็มเมือง เถียงแทนว่านั่นหน่วยพิเศษ ไม่อยากโดนทารุณไม่เป็นผู้เป็นคนก็อย่าสมัครมา มีคนตายค่อยว่ากัน

ลุงตู่ทำอะไรดีไปหมด ใช้ ม.44 ย้ายข้าราชการที่ตั้งเอง ใช้ ม.44 แก้กฎหมายยามที่ร่างเอง ย้ายรถตู้อนุสาวรีย์ชัย ให้ผู้โดยสารไปขึ้นไกลๆ หรือสั่งจับรถบรรทุกน้ำหนักเกิน เอ๊ะ อยู่มา 2 ปีกว่าเพิ่งรู้เรอะ น้ำหนักเกิน

แต่เอาน่า ถึงจะมีปัญหาอยู่มาก คนไทยก็มองโลกบนความเป็นจริง ให้ความเป็นธรรม จะเรียกร้องอะไรนักหนา รัฐบาลเลือกตั้งก็ทำไม่ได้ดีกว่านี้หรอก เพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ ทำได้แค่นี้ก็ดีเหลือหลาย ขอแค่จับธัมมชโยก็พอใจ

เพียงเสียดายอย่างเดียว ความสุขอย่างนี้เป็นความสุขเฉพาะกาล อยู่อีกไม่นาน รัฐธรรมนูญก็จะประกาศใช้ ต้องไปสู่เลือกตั้ง อย่างที่วิษณุ เครืองาม ประกาศว่าปี 60 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ใช่เลยครับ เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จริงๆ หลายด้านพร้อมกัน แม้เลือกตั้งไม่มีผลเปลี่ยนขั้วอำนาจ ภายใต้ระบอบ 250 ส.ว.ร่วมเลือกนายกฯ ล็อกสเป๊กไว้เสร็จสรรพ อำนาจเลือกตั้งไม่มีทางหือ การเมืองมวลชนหรือ ก็ขยับไม่ได้มาก แต่ที่น่าห่วงคือ ระบอบตามรัฐธรรมนูญต่างหาก เริ่มเคลื่อนเมื่อไหร่ก็เริ่มคลื่น แค่วันนี้ ยังไม่เท่าไร ก็กัดกันเรื่อง Set Zero ไม่เห็นหรือ

ร่างรัฐธรรมนูญ 2559 วางกับดักตัวเองไว้ ริบอำนาจจากเลือกตั้งไปให้เครือข่ายอำนาจอนุรักษนิยมที่ใหญ่โต แต่ไม่เป็นเอกภาพ เป็นแค่ชั่วครั้งคราว รัฐราชการ ทหาร ศาล องค์กรอิสระ ณ วันนี้เป็นเอกภาพด้วย ม.44 ด้วยบารมีและคะแนนนิยมลุงตู่ แต่เมื่อไหร่กลไกรัฐธรรมนูญเดินเครื่องเต็มที่ มีรัฐบาลใหม่ ไม่มี ม.44 ไม่มีบทเฉพาะกาล เมื่อนั้น ก็ระวังเครื่องจักรทำลายตัวเอง

คิดผิดคิดใหม่ได้ ไม่ต้องแย้มเลือกตั้งเร็ว อยู่ให้ความสุขชั่วคราวๆๆๆ ไปพลางๆๆ

source :- FB Atukkit Sawangsuk & https://www.khaosod.co.th/politics/news_116141

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.