สหรัฐอเมริกาทิ้ง "ระเบิดโคตรแม่" ที่อัฟกานิสถาน-อ้างมุ่งเป้าอุโมงค์ไอซิส


Posted: 13 Apr 2017 02:38 PM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)

ผบ.กองทัพสหรัฐประจำอัฟกานิสถานแถลงว่าได้ทิ้งระเบิด GBU-43/B หรือ "ระเบิดโคตรแม่" เป็นครั้งแรกเพื่อทำลายเครือข่ายอุโมงค์ของกลุ่มไอซิสทางตะวันออกของอัฟกานิสถาน โดยมีพลังทำลายล้างเทียบระเบิด TNT 11 ตัน เป็นระเบิดที่ไม่ใช่อาวุธนิวเคลียร์ซึ่งรุนแรงที่สุดที่สหรัฐฯ เคยใช้มา การโจมตียังเกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐฯ กำลังปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างหนักในซีเรีย อิรัก และอัฟกานิสถาน


ระเบิด GBU-43/B หรือระเบิดโคตรแม่ (MOAB) ภาพถ่ายเมื่อปี 2003 ขณะเตรียมนำไปทดสอบที่ Eglin Air Force Armament Center (ที่มา: แฟ้มภาพ/United States Department of Defence/Wikipedia)


แผนที่แสดงที่ตั้งของอำเภออะชิน ในจังหวัดนันกาฮาร์ทางตะวันออกของอัฟกานิสถาน ซึ่งกองทัพสหรัฐอเมริกาอ้างว่าได้โจมตีทางอากาศด้วยระเบิด GBU-43/B โดยมุ่งเป้าไปยังเครือข่ายอุโมงค์ของไอซิส (ที่มา: Google Maps)

กองทัพสหรัฐอเมริกาแถลงเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่าได้ทิ้งระเบิดที่ไม่ใช่อาวุธนิวเคลียร์ลูกใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยใช้มาในสมรภูมิอัฟกานิสถาน โดยเป้าหมายคือ "เครือข่ายอุโมงค์" ของกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอซิสในอัฟกานิสถาน และเป็นครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกาใช้ระเบิด GBU-43/B หรืออีกชื่อหนึ่งที่ถูกเรียกคือระเบิดโคตรแม่ (mother of all bombs - MOAB)

อาวุธดังกล่าวซึ่งพัฒนาขึ้นในปี 2545 ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ทำลายเป้าหมายใต้ดิน และทะลุทะลวงในไปในพื้นผิวดิน โดยมีน้ำหนัก 10.3 ตัน และมีพลังทำลายล้างเทียบเท่าระเบิด TNT 11 ตัน โดยระเบิดถูกทิ้งลงมาจากเครื่องบินรบและระเบิดก่อนถึงพื้นดิน ซึ่งจะสร้างรัศมีของการระเบิดขนาดใหญ่ ทั้งนี้กองทัพสหรัฐฯ ยังมีอาวุธตามแบบซึ่งเป็นระเบิดลูกใหญ่กว่านี้อีกคือระเบิด GBU-57 ซึ่งมีน้ำหนัก 14 ตัน และยังไม่เคยนำมาใช้ในสงคราม

ทั้งนี้ผลในทางจิตวิทยาต่อผู้รอดชีวิตจากระเบิดและผู้ที่เห็นเหตุระเบิด ยังเป็นผลพวงหนึ่งของระเบิด GBU-43/B อีกด้วย

ขณะเดียวกันรัสเซียยังมีระเบิด "Father of All Bombs" (FOAB) หรือ "ระเบิดโคตรพ่อ" ซึ่งพัฒนาขึ้นในปี 2550 โดยอ้างว่ามีพลังทำลายล้างเทียบเท่าระเบิด TNT 44 ตัน หรือรุนแรงกว่า GBU-43/B ถึง 4 เท่า แต่นักวิเคราะห์ด้านกลาโหมของสหรัฐอเมริกายังไม่เชื่อกับคำกล่าวอ้างนี้


โดนัลด์ ทรัมป์ ระบุเป็นปฏิบัติการปกติ
ไม่ได้ส่งสัญญาณต่อเกาหลีเหนือ


เมื่อถูกถามว่าเขาเป็นผู้สั่งการให้ใช้ระเบิดหรือไม่ โดนัลด์ ทรัมป์ ตอบว่า "ทุกคนรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่ผมทำคือผมมอบอำนาจแก่กองทัพ เรามีกองทัพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และพวกเขาปฏิบัติการตามปกติ เรามอบอำนาจทั้งปวงแก่พวกเขา นี่คือสิ่งที่เราทำ และกล่าวอย่างเปิดเผยก็คือนี่เองเป็นเหตุผลว่าทำไมล่าสุดนี้พวกเขาจึงประสบผลสำเร็จ"

เกี่ยวกับคำถามว่าเป็นการส่งสัญญาณไปยังเกาหลีเหนือหรือไม่ ทรัมป์ระบุว่า เขาไม่รู้ว่าสิ่งนี้จะเป็นการส่งข้อความใดๆ หรือไม่ และมันไม่มีผลแตกต่างอะไร ไม่ว่าจะเป็นการส่งหรือไม่ส่งข้อความ เกาหลีเหนือคือปัญหาหนึ่ง และปัญหาจะต้องได้รับการดูแล เขายังพูดเป็นนัยว่าจีนเองก็ทำงานอย่างหนักต่อประเด็นนี้

ผบ.กองทัพสหรัฐฯ อ้างใช้ระเบิด GBU-43/B
เพื่อลดความเสี่ยงในการปฏิบัติการภาคพื้นดิน


ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐในอัฟกานิสถาน พล.อ.จอห์น ดับเบิลยู นิโคลสัน ระบุในแถลงการณ์ว่าได้ใช้ระเบิด GBU-43/B ต่อต้านกลุ่มไอซิสที่โคโรซาน หรือกลุ่ม Isis-K เนื่องจากกลุ่มไอซิสดังกล่าวใช้ ระเบิดแสวงเครื่อง บังเกอร์ และอุโมงค์ เพื่อทำให้แนวป้องกันแน่นหนาขึ้น ดังนั้นระเบิด GBU-43/B จึงเป็นระเบิดที่ถูกต้อง ใช้เพื่อลดอุปสรรคเหล่านี้ และรักษาแรงผลักดันการบุกของกองทัพสหรัฐฯ ต่อกลุ่ม Isis-K

ทั้งนี้มีการทิ้งระเบิดที่อำเภออะชิน (Achin) ทางตะวันออกของจังหวัดนันกาฮาร์ (Nangarhar) ประเทศอัฟนิสถาน เมื่อเวลา 19.32 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 22.02 น. ตามเวลาประเทศไทยซึ่งเร็วกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง

ทั้งนี้กองทัพสหรัฐระบุว่าการใช้ระเบิด GBU-43/B ก็เพื่อลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด สำหรับกองทัพสหรัฐอเมริกาและอัฟกานิสถานในการโจมตีกลุ่ม Isis-K ที่อำเภออะชิน โดยหลังการทิ้งระเบิด ทหารกองทัพสหรัฐและอัฟกานิสถานจะเข้าเคลียร์พื้นที่เป้าหมาย

ทหารอัฟกานิสถานรายหนึ่งระบุกับ "การ์เดียน" ในขณะที่เขากำลังเคลื่อนกำลังไปยังพื้นที่เป้าหมายว่า "แรงระเบิดที่เกิดขึ้น ทำให้รู้สึกเหมือนแผ่นดินไหวใหญ่ แม้จะอยู่ในเขตใกล้เคียงก็ตาม"

ประมาณการว่ามีนักรบ Isis-K ราว 600-800 นายเคลื่อนไหวอยู่ในอัฟกานิสถาน และส่วนใหญ่อยู่ที่จังหวัดนันกาฮาร์ ซึ่งรวมทั้งอำเภออะชินที่ถูกทิ้งระเบิดด้วย

ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐประจำอัฟกานิสถานระบุว่า "การโจมตียังระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียต่อพลเรือน" แต่ในการแถลงดังกล่าว ไม่ได้ระบุถึงผลกระทบต่อพลเรือนอัฟกานิสถานแต่อย่างใด


โหมถล่มอิรัก-ซีเรีย-อัฟกานิสถาน
และข้อกังวลต่อความสูญเสียของพลเรือน


รายงานของเดอะการ์เดียนระบุด้วยว่า กองทัพสหรัฐอเมริกากำลังเผชิญกับข้อกังวลที่ว่า การโหมใช้ระเบิดถล่มซีเรีย อิรัก และเยเมน กำลังสร้างความสูญเสียให้กับพลเรือน ทั้งนี้เหตุโจมตีเมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่อาคารแห่งหนึ่งในโมซุล ประเทศอิรัก ก็อยู่ระหว่างการสอบสวนว่า ปฏิบัติการของกองทัพสหรัฐเป็นเหตุทำให้พลเรือนชาวอิรัก 150 รายเสียชีวิตหรือไม่

สำหรับเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นับเป็นเดือนที่กองทัพสหรัฐใช้ระเบิดโจมตีไอซิสอย่างหนักหน่วงทั้งในอิรัก และซีเรีย ซึ่งเป็นสมรภูมิที่กินเวลามากว่า 3 ปี เครื่องบินรบของสหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดไป 3,878 ลูก ในเดือนมีนาคม แซงหน้าสถิติของเดือนมกราคมปีเดียวกันที่ทิ้งไป 3,600 ลูก

ส่วนในอัฟกานิสถาน เครื่องบินรบของสหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดไป 203 ลูกในเดือนมีนาคม เป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นมา

โฆษกของทรัมป์คือ ฌอน สไปเซอร์ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า การใช้ระเบิด GBU-43/B แสดงให้เห็นว่าสหรัฐอเมริกาต่อสู้กับไอซิสอย่างจริงจังเพื่อที่จะพิชิตกลุ่มดังกล่าว จำเป็นต้องไม่ให้กลุ่มเหล่านี้มีพื้นที่ปฏิบัติการ "อย่างที่เรากำลังทำในขณะนี้"



เรียบเรียงจาก

US drops largest ever non-nuclear bomb on Isis affiliate in Afghanistan, military says, The Guardian, 13 April 2017

GBU-43/B Massive Ordnance Air Blast, Wikipedia

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.