ที่มาภาพ เฟซบุ๊ก Niwat Roykaew 

Posted: 26 Apr 2017 01:45 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)

ประธาน 'รักษ์เชียงของ' ถูกทหารมทบ.37 เชิญตัวเข้าคุยกับกรมเจ้าท่าภูมิภาคเชียงราย ฝ่ายความมั่นคง ระบุเพื่อทำความเข้าใจและแลกเปลี่ยนข้อมูล จากเหตุค้านการสำรวจแม่น้ำโขงของจีน ด้านโฆษกรัฐบาล ยันยังไม่เริ่มแผนพัฒนาเดินเรือในแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง

เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า พ.อ.จรัส ปัญญาดี รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 จังหวัดเชียงราย ได้ประสานนัดหมายกับ นิวัฒน์ ร้อยแก้ว หรือ “ครูตี๋” ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ เข้าพูดคุย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กรมเจ้าท่าภูมิภาคเชียงราย และฝ่ายความมั่นคง ที่ร้านกาแฟจอมพล อ.เมือง จ.เชียงราย ในเวลาประมาณ 10.00 น. โดยระบุว่าเป็นการพูดคุยเรื่องการคัดค้านของกลุ่มรักษ์เชียงของต่อการสำรวจแม่น้ำโขง เพื่อทำเส้นทางเดินเรือขนส่งสินค้าของประเทศจีน

นิวัฒน์ ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ ได้ชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มเป็นการแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วยอย่างสงบ เพราะเห็นว่าการสำรวจแม่น้ำโขงเพื่อออกแบบการระเบิดแก่ง-ปรับปรุงร่องน้ำให้เรือใหญ่เดินทางผ่านได้ถึงหลวงพระบาง ในขณะที่คุณค่าทางธรรมชาติของแม่น้ำโขงบริเวณพรมแดนกลับไม่ได้รับการศึกษาถึงคุณค่าทางเศรษฐศาสตร์นิเวศ และผลกระทบจากการระเบิดแก่งตอนบนในจีน ลาว และพม่า เหนือสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งล้วนจำเป็นต้องศึกษาเพื่อทบทวนความเสียหายที่เกิดขึ้นตลอด 15 ปีที่ผ่านมา

นิวัฒน์ ยังระบุว่าการจัดทำโครงการในขณะนี้ ไม่มีขั้นตอนการศึกษาถึงผลกระทบและผลเสียต่อประเทศอย่างรอบด้าน ข้อมูลการสำรวจผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมยังไม่ชัดเจน และขาดการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน สุดท้ายยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองและไม่มีกลุ่มทุนใดมาหนุนหลัง

ทางฝ่ายความมั่นคงกล่าวถึงการเรียกพูดคุยว่าเนื่องจากเกรงว่าจะมีการคัดค้านโดยก่อเหตุรุนแรงกับเรือจากประเทศจีนที่กำลังทำการสำรวจ จึงอยากพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจทุกๆ ฝ่าย รวมทั้งพยายามสอบถามว่าทางกลุ่มรักษ์เชียงของจะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป การพูดคุยใช้เวลาประมาณ 30 นาที โดยทหารระบุว่าจะมีการรายงานผลต่อแม่ทัพภาคที่ 3 ต่อไป

ทั้งนี้ โครงการสำรวจแก่งน้ำโขงและการเคลื่อนไหวคัดค้านของชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เป็นผลมาจากเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2559 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ความเห็นชอบแผนพัฒนาการเดินเรือระหว่างประเทศในแม่น้ำล้านช้าง–แม่น้ำโขง ค.ศ. 2015 – 2025 เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการพัฒนาการขนส่งทางน้ำระหว่างประเทศในแม่น้ำล้านช้าง–แม่น้ำโขง และการดำเนินงานเบื้องต้น โดยเรือสำรวจของจีนจะเริ่มเข้าสำรวจภาคสนามบริเวณพรมแดนไทย-ลาว มีกำหนดระยะเวลาดำเนิน 55 วัน

ตั้งแต่ วันที่ 19 เม.ย. 60 เรือสำรวจภาคสนามของจีน จำนวน 6 ลำ เป็นเรือบรรทุกขนาดใหญ่ และเรือเล็ก แบบเรือสำรวจภาคสนามอีก 3 ลำ ได้เริ่มเข้าเทียบท่าเรือเชียงแสน 1 ในเขตเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน อ.เชียงแสน ทำให้ทางเครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านการสำรวจระเบิดแก่งแม่น้ำโขงของเรือจีน เพราะเห็นว่าไทยไม่ได้ประโยชน์อะไร เป็นการทำลายระบบนิเวศที่สำคัญของโลก และทรัพยากรข้ามพรมแดนที่ใช้ร่วมกันระหว่างประเทศ

ส่วนทางกลุ่มรักษ์เชียงของ ได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมเจ้าท่า และผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาเชียงราย เพื่อขอให้ระงับการอนุญาตให้สำรวจพื้นที่เพื่อระเบิดเกาะแก่งแม่น้ำโขง พร้อมให้จัดส่งเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการสำรวจทั้งหมดให้แก่ทางกลุ่มฯ ภายใน 15 วัน

รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา นิวัฒน์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เรือสำรวจของจีนได้เริ่มต้นทำการสำรวจแม่น้ำโขงตั้งแต่อำเภอเชียงแสนไปถึงอำเภอเวียงแก่น และเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการระเบิดเกาะแก่งในแม่น้ำโขง ว่าขณะนี้ชาวบ้านได้ติดตามดูเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด แต่ไม่แน่ใจว่าเรือสำรวจจีนจะมาถึงคอนผีหลงในพื้นที่อำเภอเชียงของเมื่อใด แต่ชาวบ้านได้ประชุมร่วมกันแล้วว่าจะมีการทำกิจกรรมเพื่อคัดค้านโครงการที่เกิดขึ้น ทั้งที่จุดคอนผีหลงและแก่งผาได
โฆษกรัฐบาล ยันยังไม่เริ่มแผนพัฒนาเดินเรือในแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง

ขณะที่วันเดียวกัน (25 เม.ย.60) สำนักข่าวไทย รายงานคำชี้แจงจากรัฐบาล โดย พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า โครงการเกี่ยวกับแผนพัฒนาเดินเรือระหว่างประเทศในแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง ปี 2015-2025 ซึ่ง ครม.มีมติเห็นชอบแผนพัฒนาเดินเรือดังกล่าว ในเดือนธ.ค. 2559 โดยให้กรมเจ้าท่าเป็นผู้ติดต่อประสานงาน ซึ่งภายหลังมีกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติรวมตัวยื่นคัดค้านและให้ยกเลิกการดำเนินการตามแผนดังกล่าว เนื่องจากกลัวว่าจะมีการไประเบิดแก่ง หรือไปปรับปรุงเส้นทางน้ำจนเสียสภาพจากธรรมชาติ และเกิดผลกระทบในทางหนึ่งทางใดกับผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณโดยรอบ โดยเฉพาะในขณะนี้มีเรือขนาดใหญ่จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ติดต่อกับกรมเจ้าท่า เพื่อขอเข้ามาสำรวจลำน้ำโขง

"นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงว่า กลุ่มที่คัดค้านเรื่องดังกล่าว จะเข้าใจว่ารัฐบาลกำลังดำเนินการ ดังนั้นขอยืนยันว่าขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสำรวจศึกษาความเป็นไปได้ และศึกษาผลดีและผลเสียว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งอยากให้ทุกคนเปิดใจรับฟังผลจากการศึกษา ว่าจะส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างไรหรือไม่ และไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลตกลงจะปรับปรุงหรือระเบิดเกาะแก่งใด ซึ่งเมื่อศึกษาแล้วจะต้องดำเนินการตามขั้นตอน แล้วสุดท้ายจะต้องผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และออกมาเป็นมติของคณะรัฐมนตรีว่าจะดำเนินการ จึงจะมีผลในทางปฏิบัติ วันนี้จึง เป็นเพียงการเดินเรือของประเทศจีนที่เข้ามาดำเนินการตามแผนที่ตกลงกันไว้" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว -

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.