โพลล์สำรวจ 53% เคยพบเห็นการค้าประเวณีใน กทม.

Posted: 28 Apr 2017 10:34 PM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท) 

บ้านสมเด็จโพลล์ สำรวจความเห็นประชาชน 53% เคยพบเห็นการค้าประเวณีในกรุงเทพมหานคร 43.2% เห็นยืนรอข้างถนน รอบสวนลุมพินี วงเวียนใหญ่ วงเวียน 22 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่

29 เม.ย. 2560 ศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ได้ดำเนินโครงการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาการค้าประเวณี โดยเก็บจากกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนที่ อาศัยอยู่ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 1,158 กลุ่มตัวอย่าง เก็บข้อมูลในวันที่ 26 - 28 เมษายน 2560 ซึ่งกลุ่มตัวอย่างในการสำรวจครั้งนี้ใช้เกณฑ์ตารางสำเร็จรูปของ Taro Yamane กำหนดว่า ประชากรเกิน 100,000 คนต้องการความเชื่อมั่น 95% และความผิดพลาดไม่เกิน 3% ต้องใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,111 กลุ่มตัวอย่าง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์สิงห์ สิงห์ขจร ประธานคณะกรรมการศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ กล่าวว่า ผลการสำรวจในครั้งนี้ต่อปัญหาการค้าประเวณี ในมุมมองต่างๆของประชาชนในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากปัญหาการค้าประเวณีในมุมมองของชาวต่างชาติได้มุ่งเป้าว่าประเทศไทยเป็นเมืองในระดับต้นๆที่มีชื่อในด้านการค้าประเวณี รวมไปถึงในช่วงที่ผ่านมามีข่าวคดีการค้าประเวณีที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งการค้าประเวณีในประเทศไทยนั้นมีความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ 2539 และ พระราชบัญญัติป้องกัน และปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 ปัญหาการค้าประเวณีซึ่งในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นการค้าประเวณีทางอินเทอร์เน็ต และปัญหาดังกล่าวจะมีการแก้ไขอย่างไรต่อไป ซึ่งผลการสำรวจในครั้งนี้ต่อปัญหาการค้าประเวณี มีข้อมูลที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ เคยพบเห็นการค้าประเวณี ร้อยละ 53.0 รองลงมาคือ ไม่เคย ร้อยละ 31.1 และไม่แน่ใจ ร้อยละ 15.9 ประเภทที่พบเห็นการค้าประเวณี อันดับหนึ่งคือ ยืนรอข้างถนน รอบสวนลุมพินี วงเวียนใหญ่ วงเวียน 22 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ร้อยละ 43.2 อันดับที่สองคือ สถานบันเทิง คาเฟ่ ร้านคาราโอเกะ สปา ร้านตัดผม ร้อยละ 29.7 อันดับที่สามคือ สถานบริการอาบอบนวด / นวดแผนโบราณ ร้อยละ 16.8 และอันดับที่สี่คือ อินเทอร์เน็ต / ออนไลน์ ร้อยละ 10.3

ส่วนปัจจัยทำให้เกิดการค้าประเวณี อันดับที่หนึ่งคือ เงินใช้จ่ายไม่เพียงพอ ร้อยละ 30.6 อันดับที่สองคือ ถูกหลอกถูกบังคับ ร้อยละ 24.9 อันดับที่สามคือ ครอบครัวยากจน ร้อยละ 21.5 อันดับที่สี่คือ ความฟุ้งเฟ้อตามสมัยนิยม ร้อยละ 11.7 และอันดับที่ห้าคือ ประชดชีวิต ร้อยละ 11.3

กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ เคยพบเห็นการค้าประเวณีทางอินเทอร์เน็ต ร้อยละ 61.3 รองลงมาคือ ไม่เคย ร้อยละ 27.8 และไม่แน่ใจ ร้อยละ 10.9 โดยทราบว่าต่างชาติมองประเทศไทยว่าเป็นประเทศที่มีการค้าประเวณีในอันดับต้นๆของโลก ร้อยละ 58.1 รองลงมาคือ ไม่ทราบ ร้อยละ 29.1 และไม่แน่ใจ ร้อยละ 12.8 อยากให้มีการนำ มาตรา 44 เพื่อแก้ไขปัญหาการค้าประเวณี ร้อยละ 52.7 ไม่อยาก ร้อยละ 28.4 และ ไม่แน่ใจ ร้อยละ 18.9 และกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ คิดว่าประเทศไทยไม่พร้อมกับการเปิดให้มีการค้าประเวณีอย่างถูกกฎหมาย ร้อยละ 49.3 คิดว่าพร้อม ร้อยละ 33.8 และไม่แน่ใจ ร้อยละ 16.9

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.