ส่วนผู้นำเดโมแครตเตือนว่าพรรครีพับริกันเหลือเวลา 17 วัน เพื่อไม่ให้กลุ่ม Dreamers ถูกเนรเทศ

ประธานาธิบดีทรัมป์แถลงหลังจากลงนามในกฎหมายงบประมาณชั่วคราว หรือ Continuing Resolution ฉบับที่สี่ ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 เมื่อคืนวันจันทร์ว่า ตนยินดีที่สมาชิกพรรคเดโมแครตในรัฐสภาใช้สามัญสำนึกและยอมออกเสียงเพื่อจัดสรรงบประมาณให้กองทัพ หน่วยตรวจชายแดน และเจ้าหน้าที่ตอบสนองเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ สามารถทำงานต่อไปได้

หลังจากนั้นประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้ทวีตข้อความถากถางพรรคเดโมแครตว่า การยอมกลับมาออกเสียงสนับสนุนกฎหมายงบประมาณชั่วคราวนี้ เป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ของพรรครีพับลิกัน และตนก็ต้องการชัยชนะที่สำคัญสำหรับทุกคนด้วย

ทำเนียบขาวอ้างว่า พรรคเดโมแครตยอมจำนนหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ยอมเจรจาต่อรองในเรื่องนโยบายผู้อพยพเข้าเมือง จนกว่ารัฐบาลกลางจะเปิดทำการได้อีกครั้ง

ก่อนหน้านี้สมาชิกพรรคเดโมแครตในวุฒิสภางดออกเสียงสนับสนุนกฎหมายงบประมาณฉบับล่าสุด เพื่อแลกกับคำมั่นสัญญาว่าจะมีกฎหมายเพื่อคุ้มครองสถานะของเยาวชนราวแปดแสนคน ซึ่งเป็นบุตรหลานของคนเข้าเมืองผิดกฎหมายที่เรียกว่ากลุ่ม Dreamers ในปัจจุบัน

แต่นาง Sara Huckabee โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่าทำเนียบขาวจะยอมทําความตกลงในเรื่องกฎหมายคนเข้าเมืองนี้ถ้าเป็นผลดีต่อประเทศ

พรรคเดโมแครตยอมตกลงกลับมาออกเสียงให้อีกครั้งหลังจากที่ร่วมใจกันคว่ำบาตรกฎหมายงบประมาณฉบับชั่วคราวซึ่งเป็นผลให้รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ต้องปิดทำการลงสามวัน จากการที่วุฒิสมาชิก Mitch McConnell ผู้นำพรรคเสียงข้างมากคือพรรครีพับลิกันในวุฒิสภา ให้สัญญาว่า ตราบใดที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ไม่ปิดตัวลง ตนจะนำร่างกฎหมายเกี่ยวกับคนเข้าเมืองหรือ DACA นี้เข้าสู่วาระการพิจารณา

ถึงแม้พรรคเดโมแครตเองจะไม่ค่อยแน่ใจในคำมั่นสัญญาของผู้นำพรรครีพับลิกันที่คุมเสียงข้างมากอยู่ในวุฒิสภาก็ตาม

แต่วุฒิสมาชิก Chuck Schumer ผู้นำพรรคเดโมแครตในสภาสูงก็บอกว่า วิธีนี้นับเป็นหนทางที่จะเดินหน้าต่อไปได้ และเตือนว่าขณะนี้พรรครีพับลิกันมีเวลาเหลืออยู่เพียง 17 วันที่จะผ่านกฎหมายเพื่อป้องกันไม่ให้เยาวชนกลุ่ม Dreamers ราวแปดแสนคนต้องถูกเนรเทศออกจากสหรัฐฯ ไป

อย่างไรก็ตาม การออกกฎหมายเพื่อรับรองสถานะของเยาวชนที่เรียกว่า Dreamers รวมทั้งเพื่อปฏิรูประบบคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ นั้นต้องใช้ความร่วมมือทั้งจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และจากประธานาธิบดีทรัมป์ด้วย

ซึ่งผู้นำพรรครีพับลิกันในสภาล่างก็ได้แสดงท่าทีแล้วว่า ตนไม่จำเป็นต้องผูกพันกับการพิจารณาหรือความเห็นชอบใดๆ ในวุฒิสภา

ส่วนประธานาธิบดีทรัมป์เองนั้นก็ได้แสดงท่าทีขัดแย้งกันว่า จะยอมลงนามในร่างกฎหมายเพื่อปฏิรูประบบคนเข้าเมืองหรือไม่ และได้เคยกล่าวหาพรรคเดโมแครตหลายครั้งว่า พยายามเข้าข้างหรือสนับสนุนผู้เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย มากกว่าเห็นแก่ผลประโยชน์ของคนอเมริกัน


http://rferl.c.goolara.net/Click.aspx?id=167092859308110077

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.