พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล
เมื่อวันพุธ 24 มกราคม ที่ผ่านมา ผมไปเยี่ยม ทอม ดันดี มาครับ ที่เรือนจำราชบุรี
ได้คุยกับ คุณนัน ผู้ใกล้ชิดและคอยดูแลทอมมาตลอด จึงทราบว่าการถูกย้ายจากเรือนจำกรุงเทพฯ มายังราชบุรี เมื่อเดือนพฤศจิกายน เป็นไปอย่างรีบเร่ง กระทันหัน ไม่มีการแจ้งล่วงหน้าให้ญาติได้รับทราบ และไม่มีรายละเอียดว่าถูกคุมตัวเดินทางไปเรือนจำไหนของจังหวัดราชบุรี ทางญาติและมิตรสหาย ต้องสอบถาม หาข้อมูลกันเอง
เมื่อมาถึงราชบุรี จนถึงวันที่ผมไปเยี่ยม ทอม และญาติก็ยังไม่รู้เหตุผลที่ถูกย้ายมา
เมื่อถึงคิวที่กลุ่มเราได้เข้าเยี่ยม ผม คุณนันและมิตรสหาย ได้เข้าไปในห้องเยี่ยม ก็ไม่ต่างจากห้องเยี่ยมที่อื่น คือมีกระจกกั้น พูดคุยผ่านโทรศัพท์ มีเวลาเพียงแค่ 15นาที
ทอม ดันดี เดินเข้ามา ด้วยบุคลิกที่ดูมั่นคง ดูสดใสตามสภาพ พูดคุย ยิ้มแย้ม ถามเรื่องสุขภาพก็ว่าแข็งแรงดี
ทอม เล่าว่า เขียนเพลงได้หลายเพลง มีความหวังว่า ได้ออกมา จะมาร้องเพลง อยากออกมาทำมาหากิน
ทอม บอกว่า
“ ผมเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง ยังยืนเคียงข้างประชาชน”
ผมบอกให้กำลังใจ เขาบอกว่า ไม่ต้องห่วง กำลังใจผมเกินร้อย และกล่าวอีกว่า
“ ....ทำไงได้ เราเลือกที่จะยืนข้างประชาชน ก็ต้องเจอแบบนี้ เราต้องทนให้ได้....”
น้ำเสียงของทอมจริงจัง แววตาของเขายังสดใส แต่ผมก็ยังแอบเห็นประกายของน้ำในเบ้าตา
หลังเยี่ยมเสร็จ ผมก็กลับมาทำงาน ส่วนคุณนันก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ มิตรสหายที่มาก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
จนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นคือวันพฤหัสบดี ทอมถูกนำตัวไปขึ้นศาลจังหวัดราชบุรี ที่สำคัญคือ กระบวนการยังคงเหมือนเดิมคิอ ทอมและญาติไม่ได้รู้ตัวมาก่อน ทางคุณนันเมื่อทราบข่าว ก็ต้องรีบเดินทางจาก กทม. มาโดยเร็ว
ผมไม่มีความรู้ในกระบวนการดำเนินคดีว่า เหตุการณ์อย่างที่ทอมได้รับการปฎิบัติ เป็นเรื่องปกติ ที่ถูกที่ควรแล้วหรือที่นักโทษจะไม่ได้รับการแจ้งล่วงหน้าเลยหรือว่า จะถูกย้าย จะไม่ได้รับการแจ้งล่วงหน้าเลยหรือว่าวันไหนจะถูกนำตัวไปขึ้นศาล หรือเพราะทางการมีเหตุผลเรื่องความปลอดภัยหรืออื่นใด แต่ผมคิดว่า มันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่นักโทษและญาติ สมควรที่จะได้รับรู้
เรื่องคดีที่โดนตามข่าว ช่วงก่อนรัฐประหาร ตำรวจราชบุรีเคยเชิญพวกเรา (แดงราชบุรี) บางคน ในฐานะกลุ่มที่จัดเวทีปราศรัย ปสอบปากคำ ตอนนั้น รวจถามว่า เราฟังเนื้อหาการปราศรัยแล้วคิดอย่างไร เราก็ตอบกันไปว่า ไม่เห็นว่ามีไรผิดปกติ เป็นการแสดงความเห็นทางการเมือง .....
หลังจากนั้น คดีนี้ก็เงียบไป ทราบภายหลังว่า อัยการสั่งไม่ฟ้อง แต่มาถึงเวลานี้กลับหยิบเอาคดีนี้มาปัดฝุ่นยื่นฟ้องใหม่
สุดท้าย ที่ทอม โดนคดีเพิ่มในครั้งใหม่นี้ ทำให้เราคิดกันได้ว่าความหวังว่า “อภินิหาร เรื่องคดี 112 จะบังเกิด “คงเป็นได้แค่ หวังลมๆ แล้งๆ เป็นแค่นิยายประโลมจิตใจหรือไม่ประการใด
[right-side]
แสดงความคิดเห็น