ผู้ชุมนุมถูกยิง 1 รายในเหตุจลาจลประท้วงตำรวจยิงชายผิวดำเสียชีวิตที่สหรัฐฯ ขณะที่ผู้ว่าฯ ประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว
เพิ่มเติมข้อมูลเมื่อเวลา 12:15 น.
เกิดเหตุจลาจลเป็นคืนที่สองในเมืองชาร์ลอตต์ รัฐนอร์ทแคโรไลนาของสหรัฐฯ ตามเวลาท้องถิ่นช่วงค่ำวานนี้ (21 ก.ย.) ซึ่งตรงกับช่วงเช้าวันที่ 22 ก.ย.เวลาไทย โดยผู้ชุมนุมจำนวนมากรวมตัวกันบนท้องถนนในเมือง เพราะไม่พอใจกรณีที่ตำรวจยิงนายคีธ ลามอนต์ สกอตต์ ชายผิวดำ วัย 43 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่การชุมนุมทวีความรุนแรงจนเป็นเหตุจลาจล และมีผู้ชุมนุมถูกยิง 1 ราย เป็นชายไม่ทราบชื่อ
รายงานข่าวระบุว่าผู้ชุมนุมหลายร้อยคนเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปราบปรามจลาจลซึ่งตรึงกำลังในเมืองชาร์ลอตต์ และตำรวจตัดสินใจยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุม ทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุม ส่งผลให้นายแพท แม็คครอรี ผู้ว่าการรัฐนอร์ทแคโรไลนา ประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียง ทั้งยังมีรายงานด้วยว่าผู้ชุมนุมบางส่วนโจมตีผู้สื่อข่าวและประชาชน รวมถึงทำลายอาคารและทรัพย์สินสาธารณะ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ 16 นาย ส่วนเหตุยิงกันในระหว่างจลาจลเป็นการก่อเหตุของพลเรือน
ทั้งนี้ การเสียชีวิตของนายสกอตต์ ซึ่งเป็นชนวนเหตุของการชุมนุมประท้วงที่เมืองชาร์ลอตต์ในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากเจ้าหน้าที่พบนายสกอตต์ออกมาจากรถยนต์พร้อมอาวุธปืน และเจ้าหน้าที่บอกให้นายสกอตต์วางอาวุธ แต่เขากลับขึ้นรถไปอีกครั้ง และเมื่อตำรวจเข้าไปใกล้ นายสกอตต์ได้ออกมาจากรถ ทำให้ตำรวจเห็นว่าเป็นภัยซึ่งหน้าและเปิดฉากยิงใส่ ส่งผลให้นายสกอตต์บาดเจ็บหนักและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของนายสกอตต์ แย้งว่าช่วงเกิดเหตุ นายสกอตต์ซึ่งเป็นผู้พิการ กำลังนั่งอ่านหนังสือระหว่างรอรถโรงเรียนของลูกชาย และสิ่งที่เขาถืออยู่ในมือไม่ใช่อาวุธปืนแต่เป็นหนังสือ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวดำที่ยิงนายสกอตต์จนเสียชีวิตถูกสั่งระงับการปฏิบัติงานชั่วคราวในระหว่างที่มีการสอบสวนเรื่องนี้
เหตุยิงนายสกอตต์เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากตำรวจในเมืองทัลซา รัฐโอกลาโฮมาของสหรัฐฯ แถลงยอมรับว่าได้ยิง นายเทเรนซ์ ครุตเชอร์ ชายผิวดำที่ไม่มีอาวุธเสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา เหตุดังกล่าวทำให้ชาวบ้านโกรธแค้นและชุมนุมประท้วงที่ด้านนอกศูนย์บัญชาการตำรวจเช่นกัน


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.