โอบามาประกาศจะผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเมียนมา ชี้ประเทศหลุดพ้นจากการปกครองของรัฐบาลทหารแล้ว
นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวในโอกาสที่นางออง ซาน ซู จี รมว.ต่างประเทศเมียนมา เดินทางเยือนสหรัฐฯ ว่า ขณะนี้เมียนมาไม่ได้เป็นประเทศที่อยู่ภายใต้การปกครองโดยรัฐบาลทหารอีกต่อไปแล้ว จึงสมควรได้รับประโยชน์ด้านสิทธิพิเศษทางศุลกากร แม้นายโอบามายังไม่ได้ระบุชัดเจนว่าการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่เขาได้ส่งจดหมายถึงสภาคองเกรสในวันพุธ กำหนดให้เมียนมาอยู่ในรายชื่อประเทศที่ได้รับสิทธิพิเศษทางศุลกากรเป็นการทั่วไป ซึ่งเป็นสิทธิพิเศษทางภาษีที่ประเทศพัฒนาแล้วให้แก่สินค้าที่มีแหล่งกำเนิดในประเทศที่กำลังพัฒนา
นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวในโอกาสที่นางออง ซาน ซู จี รมว.ต่างประเทศเมียนมา เดินทางเยือนสหรัฐฯ ว่า ขณะนี้เมียนมาไม่ได้เป็นประเทศที่อยู่ภายใต้การปกครองโดยรัฐบาลทหารอีกต่อไปแล้ว จึงสมควรได้รับประโยชน์ด้านสิทธิพิเศษทางศุลกากร แม้นายโอบามายังไม่ได้ระบุชัดเจนว่าการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่เขาได้ส่งจดหมายถึงสภาคองเกรสในวันพุธ กำหนดให้เมียนมาอยู่ในรายชื่อประเทศที่ได้รับสิทธิพิเศษทางศุลกากรเป็นการทั่วไป ซึ่งเป็นสิทธิพิเศษทางภาษีที่ประเทศพัฒนาแล้วให้แก่สินค้าที่มีแหล่งกำเนิดในประเทศที่กำลังพัฒนา
ตั้งแต่ปี 2532 เมียนมาถูกระงับผลประโยชน์ทางการค้าซึ่งชาติที่ยากจนกว่าได้รับ ด้วยเหตุผลที่ว่ายังมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอยู่
สำหรับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจครั้งล่าสุดนี้ แม้จะมีกิจการหลายแห่งได้รับประโยชน์ แต่มาตรการคว่ำบาตรบางส่วนจะยังคงอยู่ ซึ่งรวมถึงการขึ้นบัญชีดำบริษัทและบุคคลซึ่งเกี่ยวข้องกับอดีตรัฐบาลทหาร อย่างน้อย 100 ราย นอกจากนี้ยังกำหนดไม่ให้มีการค้าขายหยกและทับทิม
ด้านนางซูจี เรียกร้องให้สภาคองเกรสยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่าความรุ่งเรืองจะนำมาซึ่งความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนในประเทศ
ก่อนหน้าการเยือนของนางซูจี องค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนระบุว่า สาเหตุที่สหรัฐฯ ยังคงมาตรการคว่ำบาตรต่อเมียนมาไว้บางส่วนเป็นเพราะยังมีปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในหมู่ชนกลุ่มน้อยอยู่ โดยเฉพาะต่อชาวมุสลิมโรฮิงญา #Rohingya
สำหรับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจครั้งล่าสุดนี้ แม้จะมีกิจการหลายแห่งได้รับประโยชน์ แต่มาตรการคว่ำบาตรบางส่วนจะยังคงอยู่ ซึ่งรวมถึงการขึ้นบัญชีดำบริษัทและบุคคลซึ่งเกี่ยวข้องกับอดีตรัฐบาลทหาร อย่างน้อย 100 ราย นอกจากนี้ยังกำหนดไม่ให้มีการค้าขายหยกและทับทิม
ด้านนางซูจี เรียกร้องให้สภาคองเกรสยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่าความรุ่งเรืองจะนำมาซึ่งความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนในประเทศ
ก่อนหน้าการเยือนของนางซูจี องค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนระบุว่า สาเหตุที่สหรัฐฯ ยังคงมาตรการคว่ำบาตรต่อเมียนมาไว้บางส่วนเป็นเพราะยังมีปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในหมู่ชนกลุ่มน้อยอยู่ โดยเฉพาะต่อชาวมุสลิมโรฮิงญา #Rohingya
แสดงความคิดเห็น