วุฒิสภาบราซิลลงมติปลดประธานาธิบดี อ้างข้อหายักย้ายใช้งบประมาณผิดประเภทเพื่อสร้างคะแนนนิยมก่อนเลือกตั้ง
วุฒิสภาได้ลงคะแนนเสียง 61 ต่อ 20 ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์เสียงจำนวนสองในสามที่ต้องการในการปลดนางดิลมา รูสเซฟฟ์ จากตำแหน่งประธานาธิบดี นับเป็นการยุติการอยู่ในอำนาจของพรรคแรงงาน พรรคฝ่ายซ้ายที่เป็นรัฐบาลมายาวนานถึง 13 ปีลง และนายมิเชล เทเมอร์ จากพรรคพีเอ็มดีบี เข้าสาบานตนรับตำแหน่งแทน โดยเขาจะทำงานตามเวลาที่เหลือของนางรูสเซฟฟ์คือจนถึงเดือนม.ค.ปี 2562
นางรูสเซฟฟ์บอกว่า การลงมติปลดเธอหนนี้เท่ากับเป็นการก่อรัฐประหาร เธอถูกสั่งพักงานเมื่อเดือนมี.ค.หลังจากที่วุฒิสภาลงมติให้เริ่มต้นกระบวนการถอดถอน นางรูสเซฟฟ์ถูกกล่าวหาว่า ยักย้ายเงินในงบประมาณสองประเภท ซึ่งถือว่าทำไม่ได้ตามกฎหมายของบราซิล และถูกตำหนิว่า พยายามถมช่องว่างของงบประมาณโครงการเพื่อสังคมที่เป็นที่นิยมเพื่อจะเรียกคะแนนเสียงก่อนการเลือกตั้งในปี 2557
วุฒิสภาได้ลงคะแนนเสียง 61 ต่อ 20 ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์เสียงจำนวนสองในสามที่ต้องการในการปลดนางดิลมา รูสเซฟฟ์ จากตำแหน่งประธานาธิบดี นับเป็นการยุติการอยู่ในอำนาจของพรรคแรงงาน พรรคฝ่ายซ้ายที่เป็นรัฐบาลมายาวนานถึง 13 ปีลง และนายมิเชล เทเมอร์ จากพรรคพีเอ็มดีบี เข้าสาบานตนรับตำแหน่งแทน โดยเขาจะทำงานตามเวลาที่เหลือของนางรูสเซฟฟ์คือจนถึงเดือนม.ค.ปี 2562
นางรูสเซฟฟ์บอกว่า การลงมติปลดเธอหนนี้เท่ากับเป็นการก่อรัฐประหาร เธอถูกสั่งพักงานเมื่อเดือนมี.ค.หลังจากที่วุฒิสภาลงมติให้เริ่มต้นกระบวนการถอดถอน นางรูสเซฟฟ์ถูกกล่าวหาว่า ยักย้ายเงินในงบประมาณสองประเภท ซึ่งถือว่าทำไม่ได้ตามกฎหมายของบราซิล และถูกตำหนิว่า พยายามถมช่องว่างของงบประมาณโครงการเพื่อสังคมที่เป็นที่นิยมเพื่อจะเรียกคะแนนเสียงก่อนการเลือกตั้งในปี 2557
นางรูสเซฟฟ์เองบอกว่า ที่ถูกปลดเพราะเธอได้เปิดทางให้มีการสอบสวนการทุจริตคอรัปชั่นในหลายเรื่อง ทำให้นักการเมืองชื่อดังหลายคนถูกนำตัวขึ้นศาล แต่วุฒิสมาชิกหลายคนที่ออกเสียงสนับสนุนให้ปลดนางรูสเซฟฟ์โต้ว่า เธอและพรรคแรงงานต่างหากที่ทุจริตคอรัปชั่นและจะต้องลงจากอำนาจ
ส่วนนายเทเมอร์ได้ให้สัญญาว่าจะทำงานเพื่อปรับปรุงเศรษฐกิจของบราซิลซึ่งอยู่ในช่วงของภาวะถดถอยอย่างยาวนาน ฝ่ายที่วิจารณ์นายเทเมอร์เตือนแล้วว่า เขาคงจะตัดและลดโครงการด้านสังคมหลายอย่างที่พรรคแรงงานของนางรูสเซฟฟ์ทำเอาไว้ นายเทเมอร์ประกาศเมื่อเข้ารับตำแหน่งว่าบราซิลกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีหนแรกที่ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ เขาเรียกร้องให้บรรดารัฐมนตรีปกป้องรัฐบาลจากข้อกล่าวหาของนางรูสเซฟฟ์ที่ว่า การปลดเธอหนนี้เป็นการก่อรัฐประหาร และขอให้พวกเขาทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐสภาเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ
การปลดนางรุสเซฟฟ์ทำให้บราซิลขัดแย้งกับเพื่อนบ้านสามประเทศใกล้เคียงที่มีรัฐบาลอันมาจากพรรคการเมืองฝ่ายซ้าย เวเนซุเอลาและบราซิลต่างเรียกทูตของตนกลับประเทศ บราซิลยังเรียกทูตประจำโบลิเวียและเอกวาดอร์กลับด้วย ในหลายเมืองของบราซิลมีการชุมนุมต่อต้านนายเทเมอร์ นางรูสเซฟฟ์บอกกับผู้สนับสนุนของเธอว่า วุฒิสภาได้ปลดคนที่ไม่มีความผิด พวกเขาก่อรัฐประหาร แต่เธอจะไม่กล่าวคำอำลา จะบอกเพียงว่า “เราจะพบกันอีกในเร็วๆนี้”
ด้านดาเนียล กัลลาส ผู้สื่อข่าวบีบีซีรายงานว่า การปลดนางรูสเซฟฟ์ก่อให้เกิดคำถามสำคัญเกี่ยวกับสถาบันทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของบราซิล และมีคำถามว่าถึงที่สุดแล้วเธอถูกปลดเพราะมีความผิดจริงหรือไม่ หรือนั่นเป็นเพียงข้ออ้างที่จะเอาเธอออกจากตำแหน่งเพราะเธอไม่สามารถคุมเศรษฐกิจและการเมืองได้ ในกระบวนการสอบสวนเพื่อถอดถอนนางรูสเซฟฟ์ ได้มีการตรวจสอบการดำเนินการในเรื่องงบประมาณของเธออย่างถี่ถ้วน แต่ในที่สุดแล้วสิ่งที่นำไปสู่การตัดสินเธอไม่ได้มีเพียงเรื่องนี้เท่านั้น แต่รวมไปถึงนโยบายด้านเศรษฐกิจ การปรับนโยบายไปในทิศทางตรงกันข้ามหลังจากที่ได้รับเลือกเข้าไปใหม่ กัลลาสรายงานว่า บรรดานักการเมืองบราซิลรู้ว่า การปลดประธานาธิบดีหนนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการตัดสินใจในทางเทคนิคว่า เธอมีความผิดในเรื่องของการใช้งบประมาณเท่านั้น
ภาพแรก นางรูสเซฟฟ์ ภาพที 2 การประชุมวุฒิสภา ภาพที่ 3 นายเทเมอร์ ภาพที่ 4 คือผู้สนับสนุนนางรูสเซฟฟ์
ส่วนนายเทเมอร์ได้ให้สัญญาว่าจะทำงานเพื่อปรับปรุงเศรษฐกิจของบราซิลซึ่งอยู่ในช่วงของภาวะถดถอยอย่างยาวนาน ฝ่ายที่วิจารณ์นายเทเมอร์เตือนแล้วว่า เขาคงจะตัดและลดโครงการด้านสังคมหลายอย่างที่พรรคแรงงานของนางรูสเซฟฟ์ทำเอาไว้ นายเทเมอร์ประกาศเมื่อเข้ารับตำแหน่งว่าบราซิลกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีหนแรกที่ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ เขาเรียกร้องให้บรรดารัฐมนตรีปกป้องรัฐบาลจากข้อกล่าวหาของนางรูสเซฟฟ์ที่ว่า การปลดเธอหนนี้เป็นการก่อรัฐประหาร และขอให้พวกเขาทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐสภาเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ
การปลดนางรุสเซฟฟ์ทำให้บราซิลขัดแย้งกับเพื่อนบ้านสามประเทศใกล้เคียงที่มีรัฐบาลอันมาจากพรรคการเมืองฝ่ายซ้าย เวเนซุเอลาและบราซิลต่างเรียกทูตของตนกลับประเทศ บราซิลยังเรียกทูตประจำโบลิเวียและเอกวาดอร์กลับด้วย ในหลายเมืองของบราซิลมีการชุมนุมต่อต้านนายเทเมอร์ นางรูสเซฟฟ์บอกกับผู้สนับสนุนของเธอว่า วุฒิสภาได้ปลดคนที่ไม่มีความผิด พวกเขาก่อรัฐประหาร แต่เธอจะไม่กล่าวคำอำลา จะบอกเพียงว่า “เราจะพบกันอีกในเร็วๆนี้”
ด้านดาเนียล กัลลาส ผู้สื่อข่าวบีบีซีรายงานว่า การปลดนางรูสเซฟฟ์ก่อให้เกิดคำถามสำคัญเกี่ยวกับสถาบันทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของบราซิล และมีคำถามว่าถึงที่สุดแล้วเธอถูกปลดเพราะมีความผิดจริงหรือไม่ หรือนั่นเป็นเพียงข้ออ้างที่จะเอาเธอออกจากตำแหน่งเพราะเธอไม่สามารถคุมเศรษฐกิจและการเมืองได้ ในกระบวนการสอบสวนเพื่อถอดถอนนางรูสเซฟฟ์ ได้มีการตรวจสอบการดำเนินการในเรื่องงบประมาณของเธออย่างถี่ถ้วน แต่ในที่สุดแล้วสิ่งที่นำไปสู่การตัดสินเธอไม่ได้มีเพียงเรื่องนี้เท่านั้น แต่รวมไปถึงนโยบายด้านเศรษฐกิจ การปรับนโยบายไปในทิศทางตรงกันข้ามหลังจากที่ได้รับเลือกเข้าไปใหม่ กัลลาสรายงานว่า บรรดานักการเมืองบราซิลรู้ว่า การปลดประธานาธิบดีหนนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการตัดสินใจในทางเทคนิคว่า เธอมีความผิดในเรื่องของการใช้งบประมาณเท่านั้น
ภาพแรก นางรูสเซฟฟ์ ภาพที 2 การประชุมวุฒิสภา ภาพที่ 3 นายเทเมอร์ ภาพที่ 4 คือผู้สนับสนุนนางรูสเซฟฟ์
แสดงความคิดเห็น