Posted: 31 Oct 2016 07:30 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
31 ต.ค. 2559 พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า การประชุมสำนักเลขาธิการคสช.ที่มี พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชากาตทหารบก ในฐานะเลขาธิการคสช.เป็นประธานในวันนี้(31 ต.ค.) ได้หารือเรื่องการสนับสนุนการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ว่า ขณะนี้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ได้เข้าช่วยขับเคลื่อนโครงการของรัฐบาลหลายโครงการ ได้แก่ โครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2559/2560 โดยมอบเงินช่วยเหลือให้เกษตรกรตามโครงการไปแล้วใน 7 จังหวัดภาคอีสาน
รองโฆษกคสช. กล่าวว่า กอ.รส.ยังช่วยอำนวยความสะดวกการเปิดปิดโกดังคลังสินค้ากลางขององค์การคลังสินค้าและองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร เพื่อตรวจนับข้าวคงเหลือในโกดัง รวมถึงพบปะประชาชนเพื่อรับทราบปัญหาความเดือดร้อนในทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงที่ผ่านมาได้รับทราบความเดือดร้อนของเกษตรกรจากปัญหาราคาข้าว ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งแก้ไขผ่านกลไกของภาครัฐ
“จากสภาพการณ์ในขณะนี้ อาจมองได้ว่าปัญหาราคาข้าวในปัจจุบันมีความไม่ปกติ อาจเกิดจากหลายปัจจัย รวมทั้งอาจมีกระบวนการสร้างกลไกราคาเทียมซ้ำเติมเกษตรกร เพื่อหวังผลทางการการเมือง ซึ่งคสช.โดย กกล.รส จะตรวจสอบและรับฟังข้อมูลจากเกษตรกรในทุกพื้นที่ รวมทั้งร่วมกับส่วนราชการที่รับผิดชอบโดยตรงตรวจสอบการรับซื้อข้าวของโรงสีในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อเสนอเป็นข้อมูลให้รัฐบาลนำไปพิจารณาบริหารจัดการในปัญหาที่เกิดขึ้นโดยด่วนต่อไป” พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าว
ทั้งนี้ วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) และได้ตั้งประเด็นนี้ในที่ประชุมด้วยว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาข้าวเปลือกตกต่ำ โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิมีปัญหา ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นมาจาก 2 ประเด็น คือ 1. การปรับโครงสร้างการเกษตรที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ครบวงจร ยังมีปัญหาอยู่ยังทำไม่ได้ 100% ก็จะทำให้เกิดปัญหาอย่างแน่นอน 2. การเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งมีการร่วมมือกันระหว่างนักการเมืองในพื้นที่ ร่วมกับโรงสีบางโรงสี ในการกำหนดราคาข้าวให้ต่ำลง โดยหวังให้เกิดประเด็นต่อประชาชนให้เกิดการต่อต้านหรือขัดแย้งกับรัฐบาล ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ต้องสร้างความเข้าใจทั้งระบบ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)
ที่มา สำนักข่าวไทย
แสดงความคิดเห็น