องค์กรณ์สิทธิมนุษยชนออกแถลงการณ์ กรณีระเบิดตลาดสดพิมล จ.ยะลา จนมีผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ จำนวนมาก ให้รัฐนำคนผิดมาลงโทษอย่างเป็นธรรม เคารพหลักสิทธิมนุษชน ปราศจากอคติ ขอผู้ใช้ความรุนแรงยุติการกระทำที่ส่งผลต่อพลเรือนและเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีอาวุธตามอนุสัญญาเจนีวา
22 ม.ค. 2561 จากเหตุเหตุระเบิดเมื่อช่วงเช้าวันนี้บริเวณหน้าตลาดสดพิมลชัยหน้าร้านค้าส่ง ซอย 3 ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ซึ่งเป็นช่วงที่มีประชาชนเข้ามาจับจ่ายซื้อของเป็นจำนวนมาก เหตุเกิดที่หน้าร้านเขียงหมูที่มีชาวพุทธอยู่จำนวนมาก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 2 คน และมีผู้บาดเจ็บจำนวน 23 คน นั้น
ต่อมามีองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนออกแถลงการณ์ต่อกรณีดังกล่าวหลายองค์กร เช่น มูลนิธิผสานวัฒนธรรม มูลนิธิศักยภาพชุมชน กลุ่มด้วยใจ องค์กรเครือข่ายสิทธิมนุษยชนปาตานี ศูนย์ประสานเครือข่ายองค์กรประชาสังคมนราธิวาส เครือข่ายชุมชนศรัทธา เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ และสำนักปาตานีรายาเพื่อสันติภาพและการพัฒนา(LEMPAR) เป็นต้น
โดยมีข้อเรียกร้องต่อผู้เกี่ยวข้อง 1. ขอให้รัฐบาลนำคนผิดมาลงโทษโดยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม เคารพหลักการด้านสิทธิมนุษชน ปราศจากอคติ 2. ขอให้รัฐบาลศึกษาถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดการใช้ความรุนแรงต่อพลเรือนหลังจากที่ไม่เกิดมานานกว่า 7 เดือน และดำเนินการในการวางมาตรการป้องกันและแก้ไขสาเหตุที่เกิดขึ้น 3. รัฐบาลจะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามนโยบายที่นำเสนอต่อสาธารณะอย่างเป็นรูปธรรมในการสร้างสันติภาพโดยใช้แนวทางสันติวิธี
นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในความขัดแย้งที่ยืดเยื้อยาวนานนี้เคารพในหลักการที่สำคัญคือหลักกฎหมายมนุษยธรรม และขอเรียกร้องต่อผู้ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ 1. ขอเรียกร้องให้ผู้ใช้ความรุนแรงยุติการใช้ความรุนแรงที่ส่งผลต่อพลเรือนและเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีอาวุธตามอนุสัญญาเจนีวา ซึ่งเป็นกฎหมายสงครามหรือกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศที่ทุกฝ่ายต้องเคารพ 2. ขอเรียกร้องให้ผู้ใช้ความรุนแรงทุกกลุ่มทุกฝ่ายเข้าร่วมในกระบวนการสันติภาพและแสดงเจตจำนงในการปกป้องประชาชนให้ประชาชนรับทราบในวงกว้าง
รายละเอียดแถลงการณ์กลุ่มต่างๆ :
แถลงการณ์กรณีการละเมิดตลาดสดพิมล จังหวัดยะลา
วันที่ 22 มกราคม 2561
ในวันนี้ 22 ม.ค.2561 เมื่อเวลาประมาณ 06.20 น.เกิดเหตุระเบิดหน้าตลาดสดพิมลชัยหน้าร้านค้าส่ง ซอย 3 ตำบลสะเตง อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ในช่วงเช้าตลาดสดแห่งนี้มีประชาชนเข้ามาจับจ่ายซื้อของเป็นจำนวนมากเหตุการณ์เกิดขึ้นที่หน้าร้านเขียงหมูที่มีพี่น้องพุทธจำนวนมากทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 2 คน และมีผู้บาดเจ็บจำนวน 23 คนโดยในจำนวนนี้มีผู้หญิงเสียชีวิต 2 คนและผู้หญิงได้รับบาดเจ็บ 15 คน
ขอแสงความเสียใจต่อผู้สูญเสียในเหตุการณ์ทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย พุทธ มุสลิม ฮินดู คริสต์ เจ้าหน้าที่หรือประชาชน ก็ไม่ควรมีใครละเมิดสิทธิในชีวิต รัฐมีหน้าที่ป้องกันไม่ให้บุคคลใดก็ตามมาพรากชีวิตด้วยการกระทำที่โหดร้ายและการละเมิดต่อกฎหมายภายในประเทศ กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ การติดตามสืบสวนสอบสวนคดีนำคนผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างเป็นธรรมมาลงโทษจะยุติวงจรความรุนแรง และสร้างความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสันติภาพที่จะต้องมีความร่วมมือจากทุกฝ่าย
เมื่อต้นปีที่ผ่านมาหลายฝ่ายมีการยืนยันถึงสถานการณ์ความไม่สงบที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากตัวเลขจำนวนเหตุการณ์ จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และแนวทางของรัฐบาลที่จะใช้กระบวนการพูดคุยในการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน จากเหตุการณ์ดังกล่าวเพื่อเป็นการลดเงื่อนไขการใช้ความรุนแรงตอบโต้ต่อกัน ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายดำเนินการต่อไปนี้
1. ขอให้รัฐบาลนำคนผิดมาลงโทษโดยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม เคารพหลักการด้านสิทธิมนุษชน ปราศจากอคติ
2. ขอให้รัฐบาลศึกษาถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดการใช้ความรุนแรงต่อพลเรือนหลังจากที่ไม่เกิดมานานกว่า 7 เดือน และดำเนินการในการวางมาตรการป้องกันและแก้ไขสาเหตุที่เกิดขึ้น
3. รัฐบาลจะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามนโยบายที่นำเสนอต่อสาธารณะอย่างเป็นรูปธรรมในการสร้างสันติภาพโดยใช้แนวทางสันติวิธี
เราขอปฏิเสธการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบในทุกพื้นที่ ขอให้ทุกฝ่ายในความขัดแย้งที่ยืดเยื้อยาวนานนี้เคารพในหลักการที่สำคัญคือหลักกฎหมายมนุษยธรรม และขอเรียกร้องต่อผู้ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
1. ขอเรียกร้องให้ผู้ใช้ความรุนแรงยุติการใช้ความรุนแรงที่ส่งผลต่อพลเรือนและเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีอาวุธตามอนุสัญญาเจนีวา ซึ่งเป็นกฎหมายสงครามหรือกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศที่ทุกฝ่ายต้องเคารพ
2. ขอเรียกร้องให้ผู้ใช้ความรุนแรงทุกกลุ่มทุกฝ่ายเข้าร่วมในกระบวนการสันติภาพและแสดงเจตจำนงในการปกป้องประชาชนให้ประชาชนรับทราบในวงกว้าง
การยุติความรุนแรงต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนและสาธารณะ โดยขอให้ประชาชนควรให้ความร่วมมือในกับเจ้าหน้าที่ในการป้องกันและเฝ้าระวังความปลอดภัยให้กับชุมชน และตระหนักว่ายังคงมีความขัดแย้งที่ต้องคำนึงถึงการสร้างความปลอดภัยให้กับตนเองและชุมชนตลอดเวลา
ผู้ร่วมแถลงการณ์
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม
มูลนิธิศักยภาพชุมชน
กลุ่มด้วยใจ
องค์กรเครือข่ายสิทธิมนุษยชนปาตานี
ศูนย์ประสานเครือข่ายองค์กรประชาสังคมนราธิวาส
เครือข่ายชุมชนศรัทธา
นายมูฮัมหมัดอายุบ เจ๊ะนะ
แถลงการณ์ประณามการก่อเหตุในตลาดพิมลชัย เทศบาลนครยะลา
จากเหตุการณ์ระเบิดหน้าร้านค้าส่ง ซอย 3 ตลาดสดพิมลชัยในเขตเทศบาลนครยะลา เมื่อช่วงเวลา 06.20 ของวันที่ 22 มกราคม 2561 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีก 18 ราย นั้น
เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ขอแสดงความเสียใจอย่างหาที่เปรียบมิได้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ประกอบด้วย
1. นางนารีรัตน์ แซ่ตั้ง
2. นางสุปรีดา เจนนฤมิตร
3. นายมะยากี แวนาแว
การก่อเหตุและสร้างความรุนแรงที่ไม่คำนึงถึงประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นการกระทำการอันโหดร้ายต่อคนที่ไม่มีอาวุธและไม่ใช่เป็นคู่ต่อสู้ ถือเป็นการละเมิดสิทธิพื้นฐานของมนุษย์ ที่มีสิทธิ์ มีชีวิตรอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำในพื้นที่ตลาด เป็นที่ซึ่งมีผู้คนมาจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก กลุ่มคนที่กระทำจึงเป็นกลุ่มคนที่ควรถูกประณามจากสาธารณชนอย่างยิ่ง
เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ขอวิงวอนไปยังผู้มีส่วนในการสร้างความขัดแย้งที่ใช้อาวุธ
1. ขอให้รัฐจับกุมผู้ก่อเหตุในครั้งนี้โดยเร็ว พร้อมทั้งเตรียมพร้อมเพื่อมิให้มีการก่อเหตุซ้ำ
2. ขอให้ทุกฝ่าย และทุกกลุ่มที่มีส่วนร่วมของความขัดแย้ง เข้าร่วมพูดคุยสันติสุข หรือสันติภาพ โดยเร็ว
3. ขอให้กลุ่มก่อการหรือกลุ่มที่มีความเห็นต่างจากรัฐ และกลุ่มติดอาวุธ อื่น ๆ ในพื้นที่ ยุติการทำที่สร้างความรุนแรงต่อพลเรือน และผู้อ่อนแอ
4. ขอเรียกร้องให้องค์กรต่างๆ และพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศร่วมลงนาม หรือออกแถลงการณ์ ประณาม และแสดงให้เห็นว่า “ประชาชนไม่เอาความรุนแรง”
5. คณะกรรมการสิทธิมนุษย์ชนแห่งชาติ ร่วมออกแถลงการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งเยี่ยมเหยื่อ และผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน
เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ
22 มกราคม 2561
แถลงการณ์ สำนักปาตานีรายาเพื่อสันติภาพและการพัฒนา (LEMPAR)กรณีเหตุระเบิดที่ตลาดสดกลางเทศบาลนครยะลา
สืบเนื่องจากได้เกิดเหตุการณ์ระเบิดที่ตลาดสดกลางเทศบาลเมืองยะลาเมื่อเช้าของวันที่ 22 มกราคม 2560 ไม่ว่าผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บจะนับถือศาสนาหรือจะมีเชื้อชาติใดก็ตาม ผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บก็เป็นประชาชนพลเรือนที่ไม่ได้เป็นผู้ใช้กำลังอาวุธของทุกฝ่าย ในทางกลับกันยังเป็นเป้าหมายทางการเมืองในการต่อสู้ของคู่ขัดแย้งหลักด้วยซ้ำ เพราะต่างก็อ้างว่าทำเพื่อประชาชนจะได้มีชิวิตในวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าเมื่อวาน จึงไม่สมควรอย่างยิ่งประชาชนพลเรือนสามัญชนจะมาเป็นเป้าหมายทางอาวุธจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
สำนักปาตานีรายาเพื่อสันติภาพและการพัฒนา(LEMPAR) จึงขอประณามผู้ก่อเหตุครั้งนี้และขอเรียกร้องอย่างจริงใจว่า ขออย่าได้มีเหตุการณ์เศร้าใจแบบนี้อีกเลย
แสดงความคิดเห็น