Posted: 29 Dec 2017 04:21 PM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

ไม่มีใครพูด



ก็เหมือนเวลาคนรถคว่ำแล้วรอดมาได้ ไม่เห็นใครขอบคุณกู้ภัยกับหมอเลย โม้แต่เรื่องพระที่แขวนคอ ดูเหมือนคนไทยส่วนใหญ่จะไม่ตระหนักว่า คุณภาพชีวิตของเราในปัจจุบัน ซึ่งสุขสบายและปลอดภัยกว่ากษัตริย์เมื่อร้อยปีก่อน เกิดมาจากการทำความเข้าใจธรรมชาติ ต่อยอดกันมาเรื่อยๆของเหล่านักวิทยาศาสตร์

ทำไมวันนี้เรามีอาหารมากมายเหลือเฟือ เพราะเทคโนโลยีและเครื่องจักร ไม่งั้นเราคงผลิตอาหารไม่พอกิน ขนส่งและเก็บรักษาไม่ได้ เลยต้องมีคนอดตายเสมอ ไม่งั้นก็ห่าลงตายเป็นล้านทีนึง ทำไมแม่คลอดลูกหรือมีดบาดแล้วไม่ตาย เพราะ Louis Pasteur ชี้ให้เห็นเชื้อโรคที่ตามองไม่เห็น ทำไมวันนี้เรายังไม่ตาย เพราะ Edward Jenner ป้องกันเราด้วยวัคซีน ทำให้ไม่มีห่าลงอีกต่อไป (ช่วยชีวิตคนได้ 9 ล้านคนต่อปี¹)

ทำไมเราเดินทางไปไหนต่อไหนได้รวดเร็ว สื่อสารกันได้ทันที มีความรู้ทุกอย่างในอินเทอร์เน็ต เพราะวิทยาศาสตร์และฟิสิกส์ที่เริ่มต้นมาจาก Sir Isaac Newton ทำไมเราไม่ถูกฆ่าตายเมื่อออกจากบ้าน ทำไมประเทศเรามีสันติภาพ เพราะการผลิตเหลือเฟือ และการเดินทางสื่อสารสะดวก ทำให้เราเลิกฆ่าฟันกันเพื่อแย่งชิงทรัพยากรกันเหมือนสมัยโบราณ เราชอบนึกถึงสมัยก่อนแบบโรแมนติกขวัญเรียม แต่สมัยนั้นคนอุ้มฆ่ากันง่ายๆ และยากจะได้รับความยุติธรรม

สังเกตทัศนคติต่อวิทยาศาสตร์ของคนไทยได้จากโพสต์ข่าวการทดลองวิทยาศาสตร์ จะต้องมีเมนต์ว่า "ว่างมาก" คือเราไม่เห็นว่าความเข้าใจธรรมชาตินั้นมีประโยชน์ตรงไหนเลยแม้สักนิด

เพราะเรามองไม่เห็นว่าคุณภาพชีวิตตอนนี้ มาจากบุญคุณของวิทยาศาสตร์ทั้งนั้น ไม่งั้นตอนนี้ "ทุกคน" จะต้องทำนาเลี้ยงสัตว์เพียงเพื่อให้พอจะเลี้ยงปากท้องตัวเองเท่านั้น และเราจะมีอายุเฉลี่ยแค่ไม่ถึง 50 เพราะเชื้อโรคไม่มียารักษา เด็กเล็กส่วนใหญ่จะตาย คนท้องส่วนนึงก็จะตาย คนที่ถูกมีดบาด ตะปูตำ หรือแขนขาหักก็จะต้องตายเพราะติดเชื้อ

และคนส่วนใหญ่จะไม่เคยเห็นโลกนอกหมู่บ้านของตัวเอง


เพราะวัฒนธรรมไทยมองว่าการลงทุนทำความเข้าใจธรรมชาตินั้นเสียเวลาเปล่า (งานที่มีค่าคือข้าราชการ พระ ดารานักร้อง นักธุรกิจ พนักงานประจำ) สังคมไทยจึงไม่มีนักวิทยาศาสตร์เซเลป เด็กไทยเราจึงไม่ค่อยเห็นนักวิทยาสตร์เป็นฮีโร่ ระบบการศึกษาแบบ “กระทรวงเป็นศูนย์กลาง” ทำให้เจ้าหนูจำไม กลายเป็นเด็กที่เกลียดวิทยาศาสตร์ เกลียดความเข้าใจธรรมชาติ โตเป็นผู้ประกอบการก็เลยไม่เน้นวิจัยและพัฒนา² เอาแต่รับจ้างผลิตกันมาหลายสิบปี เราเลย “กำลัง” พัฒนาอยู่นั่นแล้วไปไหนไม่ได้ เพราะคิดอะไรใหม่เองไม่เป็น ต้องรอซื้อและรอเค้าจ้างผลิตกันเรื่อยไป



เชิงอรรถ

¹ www.unicef.org/pon96/hevaccin.htm

2 List of countries by research and development spending



ที่มา: เฟสบุ๊คแฟนเพจ ไม่มีใครพูด

[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.