พ.ย.นี้ ทบ.เตรียมรับทหารกองประจำการ 3.6 หมื่นนาย การันตีเบี้ยเลี้ยงเดือนละ1หมื่น
พ.ย.นี้ ทบ.เตรียมรับทหารกองประจำการ 3.6 หมื่นนาย การันตีเบี้ยเลี้ยงเดือนละ1หมื่น
Posted: 29 Oct 2016 03:30 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ขอแจ้งให้ชายไทยที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นทหารกองประจำการ ผลัดที่ 2/59 ซึ่งทางราชการได้นัดหมายให้ไปรายงานตัวเพื่อเข้าประจำการในหน่วยทหาร ในระหว่างวันที่ 1-3 พ.ย. 2559 นั้น ได้ไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่สัสดีตามหมายนัดเข้ารับราชการทหาร (แบบ สด.40) ให้ตรงตามวัน เวลา และสถานที่ พร้อมนำเอกสารสำคัญส่วนบุคคล อาทิ ทะเบียนบ้าน บัตรประจำตัวประชาชน เอกสารแสดงคุณวุฒิการศึกษา และใบรับรองผลการตรวจเลือก (แบบ สด.43) รวมถึงยาประจำตัวที่ใช้เป็นประจำ ทั้งนี้ หากมีปัญหาขัดข้องหรือเหตุสุดวิสัยที่เป็นข้อจำกัดในการเข้ารายงานตัว ขอให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่สัสดีเขต/อำเภอ/จังหวัด โดยทันที โดยในเดือนพฤศจิกายนนี้กองทัพบกจะรับชายไทยจำนวน 36,619 นาย
เข้าประจำการในหน่วยทหารทั่วประเทศ เพื่อเข้ารับการฝึก ทั้งด้านการทหาร พัฒนาบุคลิกภาพ รวมถึงการสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพ โดยขณะนี้หน่วยฝึกทหารใหม่ของกองทัพบกได้จัดเตรียมความพร้อมในการดูแลทหารใหม่ไว้ทุกด้าน ได้แก่ สถานที่ในการพักอาศัย การประกอบเลี้ยง การออกกำลังกาย ห้องสันทนาการ สถานที่ฝึกศึกษา ห้องสมุด การรักษาพยาบาล โดยการดูแลทหารใหม่จะเป็นไปตามมาตรฐานและสอดคล้องกับนโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิตทหาร กองประจำการที่กองทัพบกให้ความสำคัญ ทั้งนี้ หลักสูตรการฝึกทหารใหม่จะใช้เวลา 10 สัปดาห์ เริ่มจากการปรับพื้นฐานสภาพร่างกาย การให้ความรู้และฝึกความชำนาญด้านการทหาร เสริมทักษะส่วนบุคคล รวมถึงการปลูกฝังอุดมการณ์รักชาติ การมีจิตอาสา และการเป็นพลเมืองที่ดี
สำหรับทหารใหม่ที่ยังไม่สำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สามารถสมัครเรียนในระบบการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) ได้ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่รายงานตัวกับหน่วยทหาร โดยต้องเตรียมหลักฐานทางการศึกษา สำเนาทะเบียนบ้าน และภาพถ่ายขนาด 1 นิ้ว เพื่อสมัครเรียนต่อได้ทันที ส่วนสิทธิต่างๆ ตามระเบียบของทางราชการที่ทหารกองประจำการจะได้รับ อาทิ เบี้ยเลี้ยงเงินเดือน 10,000 บาท เครื่องแต่งกาย การรักษาพยาบาล และได้รับการคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันชีวิตที่กองทัพบกจัดทำประกันชีวิตให้เพิ่มเติม
ที่มา : Ch7news และ มติชนออนไลน์
แสดงความคิดเห็น