รมช.กลาโหม แสดงความเสียใจกรณีระเบิดที่ตลาดโต้รุ่งปัตตานี เผยให้แนวทางดูแลเหตุร้ายไปก่อนหน้านี้แล้ว ขณะที่หลายฝ่ายออกแถลงการณ์ประณามผู้ก่อเหตุ
มติชนออนไลน์รายงานอ้างอิง พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ที่กล่าวถึงกรณีเหตุระเบิดที่ตลาดโต้รุ่ง จังหวัดปัตตานีเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา อันส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บกว่า 18 ราย โดยระบุว่าตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจาก 2-3 วันก่อนหน้านี้ได้หารือกับ ผบ.ทบ. และแม่ทัพภาคที่ 4 เกี่ยวกับแนวทางการให้ความดูแลตามชุมชน และถนนสายหลักต่างๆ แล้ว แต่ยอมรับว่าพื้นที่มีบริเวณกว้างและห่างไกล ก็อาจจะเกิดเหตุขึ้นได้
พล.อ.อุดมเดช ระบุด้วยว่า ขณะนี้ได้กำชับให้หน่วยงานด้านความมั่นคงในสามจังหวัดชายแดนใต้นำบทเรียนนี้ไปสู่การแก้ไข ซึ่งผบ.ทบ.ได้รับเรื่องไปดำเนินการโดยตรง ขณะที่กองทัพภาค 4 ก็ต้องปรับแนวทางให้เป็นไปตามนโยบายให้ดีที่สุด ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ทำได้ดีมาในระยะหนึ่ง ต้องพยายามควบคุมสถานการณ์ให้ต่อไปเพื่อพัฒนาด้านอื่น
อีกด้านหนึ่ง องค์กรสิทธิมนุษยชนและภาคภาคประชาสังคมที่ทำงานในพื้นที่สามจังหวัดออกแถลงการณ์ประณามผู้ก่อเหตุดังกล่าว โดยกลุ่มด้วยใจและโครงการ Children voice for peace ที่ขับเคลื่อนปัญหาของผู้หญิงและเยาวชน ระบุว่าเหตุระเบิดเมื่อคืนวานนี้ ทำให้เด็กหญิง 2 คน และเด็กชาย 3 คน ได้รับบาดเจ็บ โดยหนึ่งในนั้นต้องถูกตัดขา สะท้อนถึงปัญหาการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนว่าด้วยสิทธิในการดำรงชีวิตในเสรีธรรมและในความมั่นคงแห่งร่างกาย และละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
ทั้งสองกลุ่มระบุในแถลงการณ์ว่า ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนใต้เกิดจากความต้องการทางการเมืองของผู้ก่อเหตุ แต่การกระทำนั้นได้ส่งผลโดยตรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะเด็ก จึงขอเรียกร้องให้ผู้ก่อเหตุพิจารณาถึงแนวทางที่ดีกว่าต่อประชาชน ทั้งนี้ ทางกลุ่มฯ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาทบทวน ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี ในการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนไม่ใช่แค่เพียงการระงับหรือควบคุมเหตุเท่านั้น และควรสานต่อกระบวนการเจรจาเพื่อสันติภาพต่อไป
ด้าน สมาคมเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุและกลุ่มคนที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังว่าเป็นการกระทำที่โหดร้ายทารุณ ไร้มนุษยธรรม และละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นหลักสากลที่ทุกฝ่ายต้องยึดถือ และเรียกร้องให้ยุติการใช้ระเบิดในเขตสาธารณะ ในขณะที่คณะทำงานวาระผู้หญิงชายแดนใต้ ระบุว่าเหตุความรุนแรงนี้เป็นการกระทำที่เหมารวมในพื้นที่สาธารณะ ซึ่งมีคนหลากหลายศาสนา เพศ วัย จำนวนมาก ไปใช้ประโยชน์ กลุ่มคนที่กระทำจึงเป็นกลุ่มคนที่ควรถูกประณามจากสาธารณะ
แสดงความคิดเห็น