"หมออั้ม"ยกพระราชดำรัส ตอกย้ำความสำคัญของชาวนา บุญคุณทางอ้อมกับสังคมไทย บนส่วนต่างหยาดเหงื่อของ "รายได้" ที่ไม่สมดุล
.
ก่อนนอนนั่งคิดถึงประโยคๆหนึ่ง มีคนบอกไว้ว่า "ชาวนาไม่ได้มีบุญคุณกับเรา" เขาก็ขายข้าว แลกเงิน เป็นอาชีพหนึ่งเหมือนกัน ก็ค่อนข้างจะพูดได้ว่า คนบอก คิดไม่ลึกพอ และส่วนใหญ่ใจแคบ จะบอกว่า "ชาวนา" ขายข้าวแลกเงิน ก็ไม่ผิดครับ แต่เป็นการ "แลกเงินด้วยหยาดเหงื่อ" ที่ "แทบไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย" โดนเอาเปรียบแทบทุกทาง ตั้งแต่ข้าวออกจากนา ก็ว่าได้..
.
แปลกดีไหม? ข้าวไข่เจียว มีข้าว 1-2 ทัพพี ราคา 25 บาท ข้าวผัดกะเพราะ มีข้าว 1-2 ทัพพี ราคา 30-45 บาท แต่บางยุค ข้าวเปลือกจากท้องนามีราคาเพียงตันละ 6,000-8,000 บาท เท่านั้น ราคาต้นทางของ "ข้าวเปลือก" นั้นมีราคาที่ต่ำ และถูกเสียเหลือเกิน ชาวนา จึงเป็นเสมือน "กระดูกสันหลังของชาติ"ที่ต้องแบกภาระร่างกายส่วนอื่นๆ ตลอดมาและตลอดไป
.
เพราะบ้านเรา มีพื้นที่เหมาะแก่การทำเกษตรกรรม มีภูมิปัญญาชาวบ้าน ตกทอดกันมา เป็นอาชีพในสายเลือด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะทำอุตสาหกรรม หรือจะทำอาชีพอื่น ต่อยอดต่อไปไม่ได้
.
ดังกระแสพระราชดำรัส ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9เมื่อปี 2536 "..ข้าวต้องปลูก เพราะอีก 20 ปีประชากรอาจจะ 80 ล้านคน ข้าวจะไม่พอ ถ้าลดการปลูกข้าวไปเรื่อย ๆ ข้าวจะไม่พอ เราจะต้องซื้อข้าวจากต่างประเทศ เรื่องอะไร ประชาชนคนไทยไม่ยอม คนไทยนี้ต้องมีข้าว แม้ข้าวที่ปลูกในเมืองไทยจะสู้ข้าวที่ปลูกในต่างประเทศไม่ได้ เราก็ต้องปลูก.."
.
ที่พี่น้องชาวนา เขามีบุญคุณกับเรา จะบอกว่าเป็นบุญคุณทางอ้อมก็ว่าได้ กว่าจะมาเป็นข้าวทุกๆเม็ด บนจาน กว่าจะมาเป็นอาหาร ตรงหน้าท่านทั้งหลาย
.
"บุญคุณ" จากส่วนต่าง ส่วนต่างของหยาดเหงื่อแรงกาย ที่มลายหายไป บนสัดส่วนของ "รายได้" และคุณภาพชีวิต ที่ไม่สมดุล ไม่เคยได้รับเป็นธรรมอย่างแท้จริง ไม่ว่ายุคสมัยใด
.
พอถึงยุคที่จะลืมตาอ้าปากได้ ด้วยมีรัฐบาลตัวแทนประชาชน ที่เห็นคุณค่าอาชีพ ก็กลับมาถูกการเมืองเล่นงาน ใช้บาลีเข้ายีย่ำ ใช้ความต่ำในใจคน เข้ามาสุมไฟแห่งความบิดเบือน แอบอ้าง ต่อต้าน เสี้ยมเสียด จนล้มพัง เป็นซากปรัก แทบไม่เหลือชิ้นดี แบบที่ต่อไป ก็คงไม่มีใครกล้าคิดจะยื่นมือมาช่วยชาวนาอีก ผลกระทบ จะตามตกมาถึงพวกเราทุกคน ในวันที่ต้องนำเข้า "ข้าว" แบบ 100% ในวันที่แผ่นดิน ไม่มีคำว่า "ชาวนา" อีกต่อไป
.
นพ.อิราวัต อารีกิจ "หมออั้ม"
ที่มาเฟซบุ๊ก "อั้ม อิราวัต อารีกิจ"
27 ตุลาคม 2559

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.