นักเศรษฐศาสตร์ ม.เกษตร ชวนระดมคิดสร้าง 'ข้าวถุงลูกชาวนา' ขายในราคาที่เป็นธรรม


Posted: 29 Oct 2016 01:55 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)


เดชรัต สุขกำเนิด เผย 30 ต.ค. นี้ ที่คณะเศรษฐศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ จะประชุมหารืออย่างเป็นระบบ ช่วยสร้างตลาด ขายข้าวให้ชาวนา 'จอม เพชรประดับ' เปิดบทสัมภาษณ์ 'ลูกชาวนา' ตันแบบ สร้างกลยุทธ์ขายข้าว 'ซับน้ำตาพ่อแม่' ได้จริง

29 ต.ค. 2559 จอม เพชรประดับ พิธีกรรายงานเสียงไทเพื่อเสรีภาพของคนไทย ทาง Thaivoicemedia ได้สัมภาษณ์ คนึงนุช สกุลวงศ์ ลูกชาวนา อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี เกี่ยวกับการช่วยขายข้าวให้กับพ่อแม่ซึ่งเป็นชาวนาให้ได้ราคาที่เป็นธรรม โดย คนึงนุช ระบุว่า ตนช่วยพ่อแม้ขายข้าวมา 3 ปีแล้ว โดยรวมตัวกันกับเพื่อนซึ่งเป็นลูกชาวนาและชาวนาในอำเภอเดียวกัน ขายข้าวอินทรีย์ ครอบครัวตนปลูกข้าว 9 สายพันธุ์ จำนวน 30 ไร่ ขายข้าวได้กำไรมาโดยตลอด แม้จะไม่มากนัก อันดับแรกสุดจะต้องกล้าที่จะลุกขึ้นมาทำเอง อย่ารอความหวังจากรัฐบาล รวมกลุ่มกันให้ได้ก่อน จะได้รู้ว่ามีข้าวพันธุ์อะไรบ้าง จากนั้นหาลูกค้า ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือ หน่วยงาน องค์กร โรงพยาบาล โรงเรียน บริษัท กลุ่มองค์กร ต่าง ๆ ในชุมชน ก่อนที่จะไปสู่การสี บรรจุถุงและนำส่ง ในทุกขั้นตอนที่ทำถ้าเจอปัญหาก็มาสุมหัวกันแก้ปัญหา สุดท้ายก็สามารถหาทางออกได้เสมอ และเมื่อได้ลูกค้าประจำแล้ว สุดท้ายก็ขายข้าวในราคาที่ดีและเป็นธรรมกับชาวนาได้ตลอดฤดูกาล

ขณะที่ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมา เดชรัต สุขกำเนิด อาจารย์ประจำภาควิชาเศรษศาสตร์การเกษตร คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia เช่นกัน ต่อกรณีแนวคิดช่วยเหลือชาวนาขายข้าวได้ในราคาที่เป็นธรรม ก่อนผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดปลายปีนี้ โดย เดชรัต กล่าวว่า ผลผลิตข้าวที่กำลังจะออกมา จะทำให้ราคาข้าวตกต่ำอีกครั้ง บรรดาลูกหลานชาวนาจึงคุยหารือกันเพื่อช่วยสร้างตลาด ขายข้าวให้พ่อแม่ของตัวเองในราคาที่เป็นธรรม โดยจะประชุมหารือกันอย่างเป็นระบบ วันที่ 30 ต.ค. นี้ ที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทั้งเรื่อง การจำหน่าย ราคา การรับซื้อ และการขนส่ง โดย พยายามจะให้ชาวนาขายข้าวได้ในราคาเกวียนละ 15000 บาท(ข้าวเปลือก) และข้าวขาว 8000 บาทต่อตัน ในเบื้องต้น ได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่จะให้การช่วยเหลือเรื่ององค์ความรู้ สถานที่ และเงินทุนสำรองบางส่วนกอ่น ขณะเดียวกันก็จะเชิญชวนองค์กร บริษัทเอกชน ที่ต้องการจะช่วยเหลือชาวนาให้การสนับสนุนด้วย อย่างไรก็ตามโครงการนี้ไม่ใช่การตอกหน้ารัฐบาล แต่ต้องการสร้างเครือข่ายลูกชาวนา หรือประชาชนทั่วไปที่เห็นใจชาวนาไทยให้ได้รับความเป็นธรรม ขณะเดียวกันเพื่อใช้ช่องทางการสื่อสารทึ่ทันสมัยในการสร้างตลาดใหม่ ๆ ขึ้นมาด้วย


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.