เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 ตุลาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ครั้งที่ 7/2559 โดยมีรอง ผบ.ตร.จนถึงผู้บังคับการในหน่วยขึ้นตรงสำนักงาน ผบ.ตร. ร่วมประชุมใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง โดย ผบ.ตร.นำข้าราชการตำรวจทุกนายยืนสงบนิ่งแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ก่อนเริ่มประชุม
ผบ.ตร.กล่าวถึงการดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนที่จะเดินทางเข้าสักการะพระบรมศพในวันที่ 29 ตุลาคม ว่า ในบ่ายวันที่ 27 ตุลาคม จะประชุมกับทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแผนรับมือในการดูแลอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่คาดว่าจะเดินทางมาร่วมพระราชพิธีจำนวนมาก โดยกำชับตำรวจทุกนายที่มีหน้าที่ให้ดูแลรับใช้พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ให้เดินทางสะดวกปลอดภัย ระวังมิจฉาชีพไม่ให้เข้ามาก่อเหตุสร้างความเดือดร้อน รวมทั้งคอยดูแลไม่ให้เด็กพลัดหลง อย่างไรก็ตามตนสั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรทุกจังหวัดประสานกับฝ่ายปกครองให้การดูแล อำนวยความสะดวกประชาชนที่จะเดินทางมากทม.
“ภารกิจนี้ตำรวจทุกนายทำอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ ผมเชื่อว่าตำรวจทุกนายตั้งใจปฏิบัติภารกิจครั้งนี้เพื่อถวายแด่พระองค์ท่าน ไม่หวั่นฝนตก แดดออก และขอให้กำลังใจตำรวจทุกนาย ซึ่งทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ชื่นชมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ภารกิจครั้งนี้ตำรวจทุกนายทำด้วยใจประสานงานร่วมกับทุกฝ่ายทั้งปกครองและทหารอย่างเต็มที่ นอกจากนี้กำลังวางแผนเพื่อนำกำลังจากส่วนภูธรเข้ามาเสริม ผลัดเปลี่ยนใน กทม.ในช่วงพระราชพิธีตลอด 100 วันนี้” ผบ.ตร.กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่การระบุว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่กลุ่มจักรยานยนต์จิตอาสา ออกจากบางจุดบริเวณสนามหลวง โดยให้กลุ่มจักรยานยนต์รับจ้างมาแทนที่นั้น ผบ.ตร.กล่าวว่า เรื่องนี้ตรวจสอบแล้ว ไม่มีตำรวจทำอย่างนั้น ไม่มีการไล่กลุ่มจิตอาสาเพื่อเปิดทางให้รถรับจ้างเข้าไป แต่ต้องยอมรับว่ากลุ่มจิตอาสามีมากมายแต่ก็มีบางกลุ่มที่ฉวยโอกาสแฝงตัวเป็นจิตอาสาแล้วกลับเก็บเงินค่าโดยสารกับประชาชน เมื่อพบแบบนี้ตำรวจก็ไปจัดการกับกลุ่มเหล่านี้ ไม่ใช่การไล่กลุ่มจิตอาสาที่มาบริการประชาชนด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถามถึงกรณีที่มีความกังวลว่าคนร้าย อาทิ กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจากภาคใต้ หรือขบวนการค้ายาเสพติดจะอาศัยจังหวะที่ประชาชนเดินทางมา กทม.จำนวนมากเพื่อลอบก่อเหตุนั้น ผบ.ตร.กล่าวได้ติดตามตรวจสอบด้านการข่าว เฝ้าระวังอย่างเข้มจนไม่ต้องห่วง ส่วนกลุ่มยาเสพติดนั้น ก็อาจมีคนที่คิดแบบนี้ฉวยโอกาส ก็เฝ้าระวังปราบปรามแต่ตนไม่ให้ราคากับคนพวกนี้ ตนคิดว่าคนที่คิดทำแบบนี้ในช่วงเวลาเช่นนี้ไม่รู้เป็นคนอย่างไร เช่นเดียวกับกลุ่มที่หมิ่นสถาบันฯกลุ่มนี้มีทั้งที่ทำเป็นขบวนการเป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวการเมืองผลิตสื่อข้อมูลต่างๆ ในต่างประเทศ บางครั้งก็ทำแบบส่วนตัว กลุ่มที่อยู่ต่างประเทศขณะนี้ประสานงานผ่านช่องทางตำรวจสากลเพื่อดำเนินคดีแล้ว แต่ตนเผยรายละเอียดไม่ได้ กลุ่มที่เคลื่อนไหว มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมโดยยังอยู่ในประเทศก็มี ตำรวจกำลังสืบสวนติดตามดำเนินคดีอยู่ ดำเนินการกับกลุ่มนี้โดยตลอด
“ผมไม่รู้ว่าคนที่หมิ่นสถาบันฯ เคลื่อนไหว แสดงออกแบบนี้คิดอย่างไร ถ้าไม่อยากอยู่ประเทศไทยก็ออกไปนอกประเทศเสีย ไปอยู่ที่ต่างประเทศ ถ้าไม่มีเงินค่าตั๋วเครื่องบินมาเอาที่ผม ผมออกให้ไปอยู่ต่างประเทศเลย ผมยอมเป็นหนี้เพื่อชาติ ออกเงินค่าตั๋วเครื่องบินให้คนพวกนี้ออกไป” ผบ.ตร.กล่าว
พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย ผบก.ปอท. กล่าวถึงมาตรการดูแลความสงบเรียบร้อย และความมั่นคง ของสถาบันหลักของชาติในช่วงนี้ ว่า ตำรวจ บก.ปอท. ได้มีการประสานงานกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม อย่างใกล้ชิดในการสอดส่องและปิดกั้นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหากระทบต่อความมั่นคงชาติ และสถาบันหลัก อย่างรวดเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ตำรวจ บก.ปอท.จะเข้าไปพิสูจน์ทราบ หาตัวบุคคล หรือกลุ่ม บุคคลที่อยู่เบื้องหลังเว็บไซต์ผิดกฎหมายว่าเป็นใคร และอยู่ในหรือนอกราชอาณาจักร ขอให้ประชาชนชาวไทยสบายใจไม่ต้องกังวล
source :- http://www.matichon.co.th/news/335739
แสดงความคิดเห็น