Posted: 29 Dec 2017 04:25 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)
นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีฯ ชาวมลายูมุสลิมชายแดนใต้ ถูกกลุ่มคนอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลส่วนตัวอย่างละเอียด ขณะที่กลางเดือนที่ผ่านมา แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดการอบรมยุทธศาสตร์ประชาชนมีส่วนร่วมต่อต้านการก่อเหตุรุนแรงนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
29 ธ.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มูฮัมหมัดกัสดาฟี กูนา นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.00 วันนี้ (29 ธ.ค.60) ขณะที่เขากำลังรับประทานอาหารอยู่ในร้านอาหารมุสลิมกับเพื่อนใกล้มัสยิด มีเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 6 นายมาในรถกะบะไม่ติดป้ายทะเบียน เข้ามาอ้างว่า เป็นตำรวจจากกองปราบปรามพิเศษ นครศรีธรรมราช เข้ามาหาที่ร้านอาหาร และถามหาคนที่เป็นชาวมลายูมุสลิมจากปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เมื่อเจ้าหน้าที่ทราบว่า เขาและเพื่อนอีกสามคน และเจ้าของร้านอาหารเป็นชาวมลายูมุสลิมจากสามจังหวัด จึงได้ทำการ “ขอสัมภาษณ์”
มูฮัมหมัดกัสดาฟี ระบุว่า การขอสัมภาษณ์กลับกลายเป็นการเก็บข้อมูลส่วนตัวอย่างละเอียด โดยเจ้าหน้าที่ได้ขอบัตรประชาชน นำบัตรไปถ่ายรูป พร้อมกับถ่ายรูปตัว กรอกรายละเอียดลงในเอกสาร ซึ่งมีช่องให้กรอกข้อมูลส่วนตัวอย่างละเอียด รวมถึงชื่อบิดา มารดา ชื่อเพื่อนสนิท เบอร์โทรศัพท์ ความสูง ลักษณะรูปพรรณสันฐาน ลักษณะตา หู จมูก ปาก รอยแผลเป็น และให้ทั้งสี่คนพิมพ์ลายนิ้วมือ และเซ็นชื่อในเอกสาร
มูฮัมหมัดกัสดาฟี พยายามสอบถามเจ้าหน้าที่ถึงจุดประสงค์ของการเก็บข้อมูล ซึ่งเจ้าหน้าที่ตอบว่า ต้องการรวบรมข้อมูลของชาวสามจังหวัดไว้เฉยๆ เขากล่าวเพิ่มว่า เจ้าหน้าที่บางคนใส่เสื้อกั๊กมีข้อความว่า “สพ.อ. นครศรีธรรมราช”
ในวันเดียวกันนั้น เขาได้รับข้อมูลอีกว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปเก็บข้อมูลแบบเดียวกันในหอพักนักศึกษา ซึ่งทำให้เกิดความกังวลและความกลัวในหมู่นักศึกษาเป็นอย่างยิ่ง เขายังระบุด้วยว่า มีคนโดนแบบเขาทั้งหมดมีมากกว่า 20 กว่าคน ที่เขาตรวจสอบได้ได้
"เขามุ่งเป้าคนพูดยาวีเท่านั้น" "อย่างนี้ไม่ใช่การมาขอข้อมูลแล้ว แต่เป็นการคุกคามและลิดรอนสิทธิ ผมรู้สึกไม่โอเค อยากให้เจ้าหน้าที่ชี้แจง" มูฮัมหมัดกัสดาฟี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แม้จังหวัดนครศรีธรรมราชจะไม่ใช่พื้นที่ที่มีการใช้กฎหมายความมั่นคง เจ้าหน้าที่กลับใช้อำนาจเก็บข้อมูล ของชาวมลายูมุสลิม อย่างละเอียด ซึ่งรวมถึงข้อมูลรูปพรรณสันฐาน ข้อมูลบัตรประชาชน ลายนิ้วมือ ทำให้เกิดความรู้สึกตกเป็นเป้าและหวาดกลัวของหมู่นักศึกษาชาวมลายูในจังหวัดนครศรีธรรมราช
ย้อนไปเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา 18 ธ.ค. 60 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) รายงานว่า พล.ท. ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานเปิดโครงการ “ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประชาชนมีส่วนร่วม ในการต่อต้านการก่อเหตุรุนแรงนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ “ ณ ห้องประชุม โรงแรมแกรนด์เซาร์เทิน อ.ทุ่งส่ง จ.นครศรีธรรมราช
ภาพโครงการ “ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประชาชนมีส่วนร่วม ในการต่อต้านการก่อเหตุรุนแรงนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ “ ณ ห้องประชุม โรงแรมแกรนด์เซาร์เทิน อ.ทุ่งส่ง จ.นครศรีธรรมราช
สำหรับโครงการขับเคลื่อนทางยุทธศาสตร์ประชาชนมีส่วนร่วม กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ระบุว่า เป็นกิจกรรมของการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง หรือการต่อต้านการก่อเหตุรุนแรงนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นยุทธศาสตร์ปกป้องมาตุภูมิเพื่อความมั่นคงเชิงรับ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสกัดกั้นขบวนการ การก่อเหตุรุนแรง นอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนตื่นตัวและมีความเข้าใจในขบวนการ การก่อเหตุรุนแรง รวมทั้งได้มีความเข้าใจในแนวทางการปฎิบัติ และการแก้ปัญหาของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และรัฐบาลอย่างอย่างถูกต้อง อีกทั้งยังเป็นการสร้างเครือข่ายประชาชนให้มีจิตสำนึกในการปกป้องและหวงแหนแผ่นดินเกิด
กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า รายงานด้วยว่า การอบรมในครั้งนี้ เป็นโครงการต่อเนื่อง และ นับเป็นรุ่นแรกในปีงบประมาณ 2561 โดยมีวิทยากรที่มีความรู้ ผ่านประสบการณ์การทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาให้ความรู้ ความเข้าใจในกระบวนการ การก่อเหตุรุนแรง โดยนำเอาประสบการณ์ที่ได้พบเห็นหรือร่วมแก้ปัญหาด้วยตัวเองมาถ่ายทอดแนะนำแนวทางให้กับผู้เข้าร่วมอบรมได้รับรู้ อย่าถูกต้อง และ เกิดจิตสำนึกร่วมในการแก้ปัญหา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐ อันจะนำไปสู่กระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดูแลพื้นที่เพื่อให่เกิดความปลอดภัยต่อไป
แสดงความคิดเห็น