เปลี่ยนแผนจัดเฟสบุ๊คไลฟ์งาน Fairly Tell Founding and The หมอลำม่วนคักคอนเสิร์ต ยอดขายบัตรพุ่ง ยอดคนดูหลักหมื่นหลังมีข่าวถูกคุกคามโดยเจ้าหน้าที่รัฐจนต้องย้ายสถานที่จัดงานถึง 2 ครั้ง ขณะที่มีผู้สังเกตการณ์จากสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
หลังจากที่เจ้าหน้าที่รัฐได้ติดตาม ข่มขู่ กดดัน เจ้าของสถานที่จัดงานแสดงหมอลำเพื่อช่วยเหลืออดีตผู้ต้องขังคดีการเมืองถึงสองแห่ง หลังจากที่ กลุ่มแฟร์ลี่เทล ผู้จัดงานไม่สามารถหาสถานที่ในการจัดงานได้ ทางผู้จัดงานได้ตัดสินใจถ่ายทอดสดตามกำหนดการเดิมทางเฟสบุ๊คไลฟ์ บนแฟนเพจของกลุ่ม Fairly Tell และกลุ่ม พลเมืองโต้กลับ ในวันที่ 16 ธันวาคม 2560 เวลา 19.15 น.ซึ่งก่อนหน้านั้นได้ส่งข่าวการไลฟ์ให้แก่ผู้ที่ซื้อบัตรรับชมคอนเสิร์ตเงียบๆ ก่อนจะเปิดเผยในเวลาแสดงจริงอีกครั้ง
โดยที่หลังจากการถูกกดดันจนต้องย้ายสถานที่จัดงานในครั้งแรก ได้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ติดตามและสอบถามบันทึกข้อมูลการทำกิจกรรมและการถูกคุกคามโดยตลอดจนแล้วเสร็จ
ฉัตรสุดา หาญบาง ทีมงานผู้จัดการงานได้แจ้งยอดเงินที่ได้รับในกิจกรรมว่า มียอดจองบัตร 78,764 บาท เงินบริจาค13,612 บาท เงินโอนระหว่างไลฟ์ 10,386 บาท รวมทั้งสิ้นมีรายรรับ 102,762 บาท ขณะที่มีค่าใช้จ่ายในการจัดงาน 83,584 บาท ทำให้มียอดเงินคงเหลือ 20,178 บาท
ฉัตรสุดา ชี้แจงว่าในระยะแรกทางกลุ่มขายบัตรได้เพียงแค่ 40 ใบเท่านั้น จนเมื่อโดนสกัดครั้งที่ 1 ก็ขายบัตรได้เพิ่มขึ้น เป็น 82 ใบ จนสุดท้ายถูกสกัดในครั้งที่ 2 เราก็ได้ยอดซื้อบัตรครบ 120 ใบ ซึ่งเกินเป้าที่เคยคาดหวังไว้มาก แต่ถึงแม้ว่าจะมีคนดูมากขึ้น แต่ก็มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายเรื่องความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นตามมา ทั้งตั๋วเครื่องบินที่ต้องเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน ทั้งค่าใช้จ่ายในการเดินทางหาสถานที่จัดงานหลายรอบ ทั้งยังต้องหาคนคอยอยู่เป็นเพื่อนกับนักแสดง ทีมงานที่มีความเสี่ยงต่อการถูกคุกคามโดยรัฐ เป็นค่าใช้จ่ายเฉพาะหน้าที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จนทำให้ต้นทุนเพิ่มเป็น 83,584 บาท แต่ก็ยังได้กำไรมากกว่าที่คิดไว้ตอนแรก
แต่เป็นที่น่าสนใจว่า นอกจากยอดเงินที่เพิ่มขึ้นแล้ว การแสดงดังกล่าวยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในโลกออนไลน์ โดยได้ยอดวิว ทั้งหน้าเฟชบุ๊คของ Fairly Tell 3,100 วิว และ เพจพลเมืองโต้กลับสูงสุด 37,498 วิว ซึ่งถือเป็นการเผยแพร่ผลงานออกไปในมุมกว้างกว่าที่ทีมงานผู้จัดคาดคิดไว้
"ตอนแรกคิดว่าจะมีคนมาดูไม่เกิน 50 หรือ 70 คน ตอนนี้คนดูเป็นหมื่น ก็ตื่นเต้นมากและก็ดีใจมาก เพราะ ทีมงานตั้งใจทำงานกันมาก ซ้อมกันมาเป็นอาทิตย์ แบบไม่รู้ว่าจะได้เล่นหรือเปล่า ก็ขอขอบคุณท่านผู้สนับสนุนทุกๆ ท่านที่ทำให้พวกเราได้แสดงออกค่ะ"
"สำหรับเราเงินกำไรไม่สำคัญเท่าการมีพื้นที่แสดงออกถึงศักยภาพของอดีตนักโทษ ทั่งนักร้อง - หางเครื่อง และทีมงานเบื้องหลังที่เคยใช้ชีวิตอยู่หลังลูกกรงได้เผยโฉมต่อหน้าผู้คนนับหมื่นด้วยความมั่นใจอีกครั้ง เราจะใช้เงินนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการดูแลและพัฒนาศักยภาพอดีตนักโทษหญิงและนักโทษการเมืองต่อไป แต่จริงๆ อยากให้ทุกคนได้มาดูสดๆ เพราะว่าสนุกมากจริงๆ"
"เรารับงานเต้นประกอบเพลงด้วยนะคะ ติดต่อเข้ามาได้ค่ะ รับรองจัดเต็มแน่นอนค่ะ"
ชุติมา จินตกะเวช ประชาสัมพันธ์กลุ่ม นางฟ้อน และอดีตนักโทษหญิงพูดถึงความรู้สึกต่อคอนเสิร์ตแรกของกลุ่ม
ในส่วนศิลปินหมอลำ แบงค์ ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือในชื่อศิลปิน ปฏิภาณ ฤาชา บักหนวดเงินล้าน กล่าวถึงภาวะที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเองหลังจากได้รับอิสรภาพ เมื่อถูกถาม "ตอนผมออกมา ก็ต้องปรับตัวเยอะมากๆ ผมต้องไปหาหมอ กินยา แต่หมอก็ตอบไม่ได้ว่าผมเป็นอะไร เพราะผมไม่ได้อยากจะตาย ผมอยากจะอยู่ อยากจะมีชีวิตอยู่ อยากจะอยู่ให้ได้ ก่อนที่จะอยู่ให้เป็น"
"ผมมีความสุขมากที่ได้มอบความสุขให้พี่น้องทุกคน ผมคิดอยากลำอยากร้องให้ผู้คนได้รับชมรับฟัง อยากช่วยเพื่อนๆที่ออกจากคุกด้วยครับ ขอขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ทุกคนที่ช่วยกันผลักดันให้งานแล้วเสร็จ พร้อมทั้งขอขอบคุณแฟนๆ หมอลำทุกท่านด้วยที่ช่วยกันสนับสนุนและรับฟังด้วยความม่วน" แบงค์กล่าวสรุปถึงความรู้สึกหลังจากที่งานเสร็จลุล่วงด้วยดี
[full-post]
แสดงความคิดเห็น