Posted: 21 Dec 2017 06:03 PM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)
ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติลงมติ 128 ต่อ 9 เรียกร้องให้ทุกรัฐยึดข้อมติของสหประชาชาติต่อสถานะของเยรูซาเลม พร้อมแสดงความผิดหวังหลังสหรัฐฯ หนุนเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงอิสราเอล อย่างไรก็ตามมติที่ประชุมใหญ่ยูเอ็นไม่มีผลผูกพันชาติสมาชิก โดยที่ชาติยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลงมติหนุน ยกเว้นฟิลิปปินส์ที่งดออกเสียง ส่วนพม่าและติมอร์ไม่เข้าประชุม ขณะที่พันธมิตรของสหรัฐฯ อย่างแคนาดา ออสเตรเลีย เม็กซิโก งดออกเสียง
การประชุมของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2560
(ที่มาภาพ: UN Photo/Manuel Elias)
(ที่มาภาพ: United Naitons/YouTube)
21 ธ.ค. 2560 ตามเวลาท้องถิ่นที่นิวยอร์ก ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติประกอบด้วยชาติสมาชิก 193 ประเทศ ออกเสียงเห็นชอบ 128 ไม่เห็นชอบ 9 ลงมติเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาเพิกถอนการรับรองสถานะนครเยรูซาเลม เป็นเมืองหลวงของอิสราเอล โดยเนื้อหาของมติดังกล่าวระบุว่าการตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับสถานะของนครเยรูซาเล็มไม่มีผลบังคับใช้และเป็นโมฆะ ขณะที่มีชาติงดออกเสียง 35 ประเทศ
โดยมติของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติแสดงความผิดหวังอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถานะของเยรูซาเลม หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศเมื่อ 6 ธันวาคมว่าจะรับรองเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล นอกจากนี้มติของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติยังระบุด้วยว่าการตัดสินใจเกี่ยวกับสถานะของเยรูซาเลมจะต้องกระทำผ่านการเจรจาซึ่งเป็นไปตามข้อมติของสหประชาชาติเท่านั้น
การลงมติครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก ที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติได้รับคำร้องเรียนจากผู้แทนปาเลสไตน์
โดยการลงมติมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ขู่จะตัดความช่วยเหลือด้านการเงินกับชาติที่ออกเสียงสนับสนุนมติสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ที่ให้เพิกถอนการรับรองสถานะนครเยรูซาเลม
คลิปช่วงการลงมติในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ
สำหรับ 9 ประเทศที่ออกเสียงไม่เห็นชอบมติ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อิสราเอล กัวเตมาลา ฮอนดูรัส หมู่เกาะมาร์แชลล์ ไมโครนีเซีย นาอูรู ปาเลา และโตโก ส่วน 35 ชาติที่งดออกเสียงหลายชาติเป็นพันธมิตรของสหรัฐอเมริกา เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา ฟิลิปปินส์ เม็กซิโก
สำหรับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ออกเสียงเห็นชอบมี 8 ประเทศประกอบด้วย บรูไน มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ลาว กัมพูชา เวียดนาม และประเทศไทย ส่วนฟิลิปปินส์ซึ่งประธานาธิบดีดูเตอร์เต เคยแสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อสหรัฐอเมริกากลับเป็นชาติเดียวงดออกเสียง ส่วนผู้แทนของพม่า และติมอร์เลสเต ไม่อยู่ในที่ประชุม
ส่วนชาติในเอเชียตะวันออกทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเกาหลีเหนือ ออกเสียงเห็นชอบ ส่วนมองโกเลีย ไม่อยู่ในที่ประชุม
อย่างไรก็ตามการลงมติในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติไม่มีผลผูกพัน แต่เป็นการส่งสัญญาณความไม่เห็นด้วยหลังประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศให้เยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล และจะย้ายสถานทูตสหรัฐอเมริกาจากเทล อาวีฟ มาที่เยรูซาเลม
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. นิกกี เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติใช้สิทธิวีโต้ปัดตกร่างมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ต้องการประณามการตัดสินใจของสหรัฐอเมริกา ในการรับรองสถานะกรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล
ที่มา: แปลและเรียบเรียงจาก
General Assembly demands all States comply with UN resolutions regarding status of Jerusalem, UN News Center, 21 December 2017[full-post]
แสดงความคิดเห็น