Posted: 21 Dec 2017 01:35 AM PSTชัยภูมิ ป่าแส

ทนายครอบครัวชัยภูมิเผยภาพกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุยังไม่ปรากฏในบัญชีพยานฝ่ายอัยการ ชี้ตำรวจเคยได้ฮาร์ดดิสก์แล้ว แต่เปิดไม่ได้ ส่งเรื่องขอภาพไปอีกครั้งตั้งแต่ก่อนส่งเรื่องให้อัยการ เล็งขอศาลเรียกเอาภาพจากหน่วยทหารที่จุดตรวจต้นปีหน้า พร้อมสำเนาถึงแม่ทัพภาคที่ 3 เพราะเคยบอกว่าดูแล้ว 
21 ธ.ค. 2560 ความคืบหน้าหลังศาลมีการไต่สวนคดีการตายของชัยภูมิ ป่าแส (จะอุ๊) เยาวชนนักกิจกรรมทางสังคมชาติพันธุ์ลาหู่ ที่ถูกทหารยิงเสียชีวิตที่ด่านตรวจบ้านรินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารอ้างว่าได้ขอเข้าตรวจค้นรถยนต์ของชัยภูมิ และพบยาเสพติดประเภทยาบ้าเป็นจำนวนมากบรรจุซองพลาสติกซุกซ่อนอยู่ภายในบริเวณส่วนกรองอากาศของรถ ต่อมา ชัยภูมิ ได้ทำการขัดขืนต่อสู้เจ้าหน้าที่พร้อมทั้งจะใช้อาวุธระเบิดที่ชัยภูมิมีไว้ในครอบครองขว้างใส่ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงสังหารชัยภูมิที่บริเวณจุดตรวจด่านบ้านรินหลวง

ปัจจุบัน ศาลได้สืบพยานไปแล้วจำนวน 3 ปากตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย. ที่ผ่านมา และได้กำหนดวันนัดไต่สวนพยานผู้ร้องอีกจำนวน 4 ปาก ในวันที่ 13 และ 14 มี.ค. 2561 และนัดไต่สวนพยานผู้ร้องซักถามอีกจำนวน 11 ปาก ได้แก่วันที่ 15, 16 และ 20 มี.ค. 2561

สุมิตรชัย หัตถสาร ทนายความศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น ผู้เป็นทนายความของครอบครัวชัยภูมิในการไต่สวนคดีการตาย กล่าวกับผู้สื่อข่าวประชาไทว่า ในการไต่สวนคดีการตายครั้งที่ผ่านมา ยังไม่ปรากฏภาพจากกล้องวงจรปิดจากบัญชีพยานฝ่ายอัยการ

ต่อประเด็นที่ว่าทหารเคยส่งฮาร์ดดิสก์กล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว ทนายของครอบครัวชัยภูมิระบุว่า ตำรวจได้ฮาร์ดดิสก์แล้ว แต่กองพิสูจน์หลักฐานระบุว่าไม่สามารถเปิดได้ ตำรวจจึงได้ดำเนินการขอภาพไปใหม่ตั้งแต่ก่อนที่จะส่งเรื่องให้อัยการ โดยในต้นปีหน้า สุมิตรชัยจะให้ศาลออกหมายขอภาพจากกล้องวงจรปิดไปยังหน่วยที่ตั้งอยู่ที่ด่านรินหลวงอันเป็นที่เกิดเหตุ และทำสำเนาให้กับพลโท วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาพที่ 3 ที่เคยระบุว่าได้เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว

ภาพทหารตรวจค้นรถของชัยภูมิก่อนที่จะเกิดการเสียชีวิต

ที่ผ่านมามีกระแสเรียกร้องให้กองทัพเปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดที่ด่านตรวจบ้านรินหลวงในวันที่ชัยภูมิเสียชีวิต โดยเชื่อว่าจะเป็นกุญแจสำคัญต่อรูปคดีการตายของชัยภูมิ ปัจจุบัน มีผู้ที่ระบุว่าเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วสองคน ได้แก่ พล.ท.วิจักขฐ์ แม่ทัพภาคที่สาม เจ้าของวลี “ถ้าเป็นผมอาจกดออโต้ไปแล้ว” และ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบกที่กล่าวว่า ได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วแต่ไม่สามารถตอบโจทย์ทั้งหมดได้ ต้องปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการไปเพราะถือว่าเป็นพยานหลักฐานชิ้นหนึ่ง

'ผบ.ทบ.' เมินกระแสร้องเปิดภาพวงจรปิด ปมวิสามัญฯ ชัยภูมิ เผยดูแล้วแต่ไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด

ทหารส่งภาพวงจรปิดวิสามัญ ‘ชัยภูมิ ป่าแส’ ทั้งฮาร์ดดิสก์ให้ตำรวจ

ที่ผ่านมา พ.ต.อ. มงคล สัมภวผล รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับวงจรปิดนั้น ทหารได้ส่งให้พนักงานสอบสวนแล้ว โดยเอามาให้ทั้งฮาร์ดดิสก์ ตำรวจไม่กล้าเปิดดู กลัวจะเกิดการผิดพลาด จึงใช้สก็อตเทปพันและเซ็นชื่อกำกับ ส่งต่อไปยังกองพิสูจน์หลักฐานดำเนินการตรวจสอบก่อน หากทหารนำแผ่นซีดีมาให้เราสามารถเปิดดูได้ทันที แต่ส่งมาทั้งฮาร์ดดิสก์หากเปิดแล้วไม่มีภาพหรือขัดข้อง ตำรวจเดือดร้อนแน่จึงต้องรอกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบให้แน่นอนว่าภาพนั้นมีการตัดต่อหรือไม่ แต่ในการไต่สวนคดีการตายครั้งล่าสุดก็ไม่ได้มีภาพวงจรปิดเป็นที่ปรากฏ


[right-side]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.