Posted: 22 Dec 2017 03:46 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)
รายงานสะเทือนขวัญของฮิวแมนไรท์วอทช์ กรณีกองทัพเมียนมาร์กวาดล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญาเมื่อเดือน ส.ค. พบนอกจากการฆ่า ข่มขืน เผาเด็กทั้งเป็น ในระดับอาชญากรรมต่อมนุษยชาติแล้ว ยังเป็นการกระทำที่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า ทำให้มีการเรียกร้องให้นานาชาติร่วมกันนำตัวผู้ก่อเหตุเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้
21 ธ.ค. 2560 ฮิวแมนไรท์วอทช์เปิดเผยรายงาน 30 หน้า เกี่ยวกับกรณีที่กองทัพเมียนมาร์สังหารหมู่และข่มขืนชาวมุสลิมโรฮิงญาจำนวนมากในหมู่บ้านทุลาโทลี รัฐยะไข่ เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งหลายเป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลสะเทือนทำให้กองทัพเมียนมาร์ รัฐบาลเมียนมาร์รวมถึงอองซานซูจี ถูกวิจารณ์จากทั่วโลก
ฮิวแมนไรท์วอทช์ระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการกวาดล้างเผ่าพันธุ์โดยกองทัพเมียนมาร์ที่ส่งผลให้ชาวโรฮิงญามากกว่า 645,000 ราย ต้องลี้ภัยไปที่บังกลาเทศ
ในรายงานที่ชื่อ "การสังหารหมู่ริมแม่น้ำ : การก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติของกองทัพเมียนมาร์ในทุลาโทลี" มีการระบุถึงรายละเอียดการใช้กำลังเข้าผิดล้อมและโจมตีหมูบ้านริมฝั่งแม่น้ำ กองทัพเมียนมาร์ได้ล่าสังหารและข่มขืนผู้คนทั้งชาย หญิง และเด็ก รวมถึงมีการขุดไฟเผาหมู่บ้าน รายงานฉบับดังกล่าวมาจากปากคำของชาวโรฮิงญาที่รอดชีวิตและกำลังลี้ภัยในบังกลาเทศ รวมถึงการสืบสวนปฏิบัติการทหารเมียนมาร์ในกรณีของโรฮิงญา
แบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอทช์สาขาเอเชียกล่าวว่า การกระทำที่โหดร้ายป่าเถื่อนของกองทัพเมียนมาร์ในทุลาโทลีนั้นไม่เพียงแต่อำมหิตอย่างเดียวเท่านั้นแต่มีการกระทำอย่างเป็นระบบและมีการวางแผนไว้ล่วงหน้า
รายงานของฮิวแมนไรท์วอทช์ระบุถึงรายละเอียดที่กองทัพเมียนมาร์เข้าล้อมชาวบ้านที่กำลังหนีตายไปรวมตัวอยู่ที่ริมแหล่งน้ำ พวกเขาจับผู้หญิงและเด็กแยกออกมาแล้วสังหารผู้ชายด้วยอาวุธปืนหรือมีด จากนั้นจึงพยายามเอาศพที่เผาแล้วมากลบฝังเพื่อพยายามทำลายหลักฐานการสังหารหมู่ นอกจากน้ยังมีบางกรณีที่พวกเขาพรากเด็กจากแม่นำไปสังหารแล้วโยนลงไปเผาหรือโยนลงแม่น้ำ มีรายหนึ่งเป็นเด็ก 1 ขวบถูกจับโยนลงในกองเพลิงทั้งเป็น มีการต้อนเด็กและผู้หญิงที่เหลือรอดไปที่บ้านใกล้ๆ นั้นแล้วลงมือข่มขืน ล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงมีการใช้กำลังทำร้าย จากนั้นจึงจุดไฟเผาบ้านที่มีผู้หญิงและเด็กอยู่ในนั้นเพื่อทำลายหลักฐาน ซึ่งหลายคนหมดสติหรือเสียชีวิตอยู่ในบ้านหลังนั้น มีเหยื่อรายหนึ่งที่หนีรอดจากกองเพลิงออกมาได้ห้สัมภาษณ์ต่อฮิวแมนไรท์วอทช์ในเรื่องนี้
ฮิวแมนไรท์วอทช์ระบุว่าการกระทำของกองทัพเมียนมาร์เหล่านี้ทั้งการฆ่า ข่มขืน ปราบปราม และบีบให้ออกจากพื้นที่เทียบได้กับการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ โดยรายงานของฮิวแมนไรท์วอทช์ยังได้นำเสนอรายชื่อผู้เสียชีวิตมากกว่า 120 ราย ที่มาจากปากคำการสัมภาษณ์ผู้รอดชีวิต ทางด้านองค์กรหมอไร้พรมแดนรายงานเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมาว่า มีชาวโรฮิงญาเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6,700 ราย หลังจากที่กองทัพเมียนมาร์มีปฏิบัติการปกวาดล้างเผ่าพันธุ์ช่วงปลายเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา
อดัมสเรียกร้องให้สหประชาชาติและรัฐบาลประเทศอื่นๆ นำตัวผู้ที่รับผิดชอบต่อการกระทำที่โหดร้ายนี้มารับโทษตามกระบวนการยุติธรรมให้ได้ "การประณามอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะนำความยุติธรรมมาสู่เหยื่อของเหตุการณ์ทุลาโทลี ควรจะมีปฏิบัติการร่วมกันของนานาชาติเดี๋ยวนี้" อดัมสกล่าว
เรียบเรียงจาก
Burma: Methodical Massacre at Rohingya Village, Human Rights Watch, 19-12-2017
https://www.hrw.org/news/2017/12/19/burma-methodical-massacre-rohingya-village
แสดงความคิดเห็น