Posted: 01 Jan 2018 01:11 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

เผยผ่านเพจ ผู้เช่าต้องการคืนพื้นที่โรงหนังลิโดที่อยู่ใกล้กันและยุติสัญญาเช่าสกาลาในปี 2561 สำนักจัดการฯ ยัน ยังไม่มีแผนรื้อทุบและขอคืนพื้นที่โรงหนังกลางกรุง แต่ถ้าผู้เช่าไม่ทำต่อก็จะเจรจาขอให้คืนแค่พื้นที่โรงหนังลิโดเพื่อปรับปรุงพื้นที่ ผู้เช่าขอจัดเทศกาลภาพยนตร์ฟิล์มนานาชาติและภาพยนตร์เงียบในเดือน พ.ค. 61 ปิดท้าย


โรงภาพยนตร์สกาลา (ที่มา:วิกิพีเดีย)

เมื่อ 31 ธ.ค. 2560 ฝ่ายบริหารสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้แจงข้อเท็จจริงในกรณีการพัฒนาพื้นที่โรงภาพยนตร์สกาลา ที่มีกระแสในโลกออนไลน์ว่าสำนักจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ จะเวนคืนและรื้อทุบปรับปรุงพื้นที่โรงหนังสกาลาที่ปัจจุบันมีผู้เช่าคือเครือเอเพ็กซ์ โดยสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ ได้ชี้แจงผ่านเพจ CU Property ใจความว่า


ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีการพัฒนาพื้นที่โรงภาพยนตร์สกาลา


ตามที่มีกระแสข่าวและการแลกเปลี่ยนในพื้นที่ออนไลน์เกี่ยวกับกรณีที่สำนักจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ จะทำการขอคืนพื้นที่โรงภาพยนตร์สกาลาและมีการคาดเดาไปว่าจะรื้อทุบปรับปรุงเป็นโครงการสมัยใหม่ตามกระแสนิยมนั้น
ฝ่ายบริหารสำนักงานฯ ขอถือโอกาสในวาระปีใหม่ที่จะถึงนี้ ชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดเพื่อให้เป็นที่เข้าใจตรงกันมา ณ ที่นี้

1. สำนักงานยังไม่มีแผนการรื้อทุบใดๆ ทั้งสิ้น และยืนยันว่า เราไม่มีความประสงค์ที่จะขอคืนพื้นที่โรงภาพยนตร์สกาลาแต่อย่างใด เรายังคงอยากให้ผู้เช่าประกอบการในส่วนอาคารสกาลาทั้งหมดต่อไปจนกว่าเวลาเหมาะสม แต่หากผู้เช่ายังยืนยันในเจตนาที่จะเลิกประกอบการสกาลาพร้อมๆ ไปกับลิโด (เป็นผู้ประกอบการรายเดียวกัน) เนื่องจากแบกรับการขาดทุนไม่ไหว ซึ่งสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ ได้มีการเจรจาขอให้สกาลาอยู่ต่อไป แต่ขอให้คืนเฉพาะลิโด เนื่องจากปัจจุบันสภาพพื้นที่โดยรวมของร้านค้าใต้ลิโดที่แบ่งล็อคให้เช่าเป็นร้านค้ารายย่อยมีสภาพเก่าทรุดโทรมมาก ขาดการปรับปรุงและบำรุงรักษาที่ดี ทำให้มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย จึงจะขอกลับมาพัฒนาพื้นที่เองเมื่อสัญญาสิ้นสุด

2. ทางสำนักงานฯกำลังหารูปแบบการดำเนินการที่เหมาะสมกับสกาลา ที่ผ่านมาทางนายกสมาคมสถาปนิกสยามได้แสดงความสนใจที่จะขอใช้พื้นที่สกาลาเป็นพื้นที่แสดงกิจกรรมของสมาคม และยังมีองค์กรอื่นที่สนใจ ตลอดจนอีกหลายฝ่ายที่ให้ความเห็นอยากให้อนุรักษ์อาคารสกาลาไว้เพื่อพัฒนาพื้นที่ส่วนโรงภาพยนตร์ในการจัดกิจกรรมต่างๆในเชิงสร้างสรรค์และสอดคล้องกับอาคารที่เป็นอยู่

3. ตามข้อเท็จจริงแล้ว สัญญาเช่าของลิโดเป็นสัญญายอมความที่ผ่อนผันให้ดำเนินธุรกิจถึง 31 ธ.ค. 2559 เท่านั้น แต่สำนักงานได้ผ่อนปรนให้อยู่ต่อเนื่องมาตลอดปี 2560 ผู้เช่ามีความประสงค์ที่จะขอคืนพื้นที่ลิโด สิ้นเดือนพฤษภาคม และขอเวลาขนย้ายถึงสิ้นเดือน กรกฎาคม 2561 ซึ่งจะขอยุติการเช่าของสกาลาไปพร้อมกันด้วย ทั้งนี้ผู้เช่าจะขอฉายภาพยนตร์แบบฟิล์มที่รวบรวมจากนานาประเทศ (International Film Festival ) ในเดือนเมษายน 2561 และ ภาพยนตร์เงียบ (Silent film festival in Thailand) ในเดือน พฤษภาคม 2561 ซึ่งผู้เช่าได้รับสิทธิในการเป็นผู้ฉายภาพยนตร์ดังกล่าว อันเป็นความภาคภูมิใจที่สำนักงานรู้สึกยินดีและเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้ขยายระยะเวลาเช่าให้สิ้นสุดลงหลังจากมหกรรมการฉายภาพยนตร์ทั้งสองช่วงเสร็จสิ้นลง พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือผ่อนปรนค่าเช่าเพื่อช่วยประคับประคองให้ธุรกิจของผู้เช่าที่อยู่คู่กับสยามสแควร์มาตลอดครึ่งศตวรรษได้ยุติลงด้วยความเรียบร้อยเป็นลำดับต่อไป


สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ ขอขอบคุณทุกท่านที่ห่วงใย และสนใจข่าวนี้ เราจะพัฒนาทรัพย์สินขององค์กรเพื่อนำผลประโยชน์ที่ได้มาพัฒนาการศึกษาของประเทศต่อไป

ฝ่ายบริหารสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.