บีบีซีไทย - BBC Thai

สหรัฐฯ ชะงักการเจรจาแผนผลักดันสันติภาพซีเรียร่วมกับรัสเซีย

นายจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะระงับการเจรจาผลักดันให้เกิดสันติภาพในซีเรียร่วมกับรัฐบาลรัสเซีย หลังข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งสองประเทศเป็นผู้ผลักดันให้เกิดขึ้นถูกล้มเลิกไปตั้งแต่ปลายเดือน ก.ย. ทั้งยังส่งผลให้เมืองอเลปโป ซึ่งเป็นพื้นที่สู้รบระหว่างกองทัพรัฐบาลซีเรียและกลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลถูกระดมโจมตีอย่างหนัก และมีผู้เสียชีวิตแล้วนับร้อยราย

แถลงการณ์ของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่ารัสเซียไม่ยึดมั่นในการทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้ในระหว่างการเจรจาตามกรอบทวิภาคี เพราะไม่มีการดำเนินการใดๆ เพื่อให้กองทัพซีเรียเคารพในข้อตกลงหยุดยิง ทั้งยังส่งเสริมให้มีการใช้กำลังทางทหารต่อไปหลังข้อตกลงหยุดยิงสิ้นสุด ส่วนนายบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากรัสเซีย มีคำสั่งให้กองทัพของตนพุ่งเป้าโจมตีโครงสร้างสาธารณูปโภค เช่น โรงพยาบาล รวมถึงกีดกันขบวนรถลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไม่ให้เข้าถึงประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือ เห็นได้จากการยิงโจมตีขบวนรถช่วยเหลือเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม มาเรีย ซากาโรวา โฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ออกแถลงการณ์ตอบโต้รัฐบาลสหรัฐฯ ว่าข้อกล่าวหาทั้งหมดไม่เป็นความจริง เนื่องจากรัสเซียไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยิงโจมตีขบวนรถช่วยเหลือในซีเรีย พร้อมย้ำว่าขบวนรถถูกโจมตีจากพื้นดิน ไม่ใช่การโจมตีทางอากาศเช่นที่สหรัฐฯ กล่าวอ้าง

แถลงการณ์ของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุด้วยว่า การตัดสินใจระงับการเจรจาของสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ แต่ขณะเดียวกันก็จะเห็นได้ว่าสหรัฐฯ ไม่ได้พยายามอย่างจริงจังในสิ่งที่ตนเองได้รับปากไว้ในการเจรจาข้อตกลงหยุดยิง เนื่องจากสหรัฐฯ ไม่สามารถแยกแยะได้ว่ากลุ่มติดอาวุธฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียกลุ่มใดที่มีแนวคิดสายกลางและไม่ได้ฝักใฝ่กลุ่มติดอาวุธที่เรียกตนเองว่ารัฐอิสลาม (ไอเอส) สหรัฐฯ จึงได้กล่าวหารัสเซียว่าเป็นฝ่ายทำให้ข้อตกลงหยุดยิงล้มเหลว เพื่อผลักภาระให้ผู้อื่นรับผิดชอบแทน

รายงานข่าวระบุว่าสหรัฐฯ มีคำสั่งเรียกตัวเจ้าหน้าที่และพลเรือนกลับจากศูนย์ประสานงานร่วมระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียในประเทศซีเรีย แต่จะยังหารือมาตรการความร่วมมือต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายกับรัสเซียต่อไป

(ภาพ: ทหารซีเรียในเมืองอเลปโป)

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.